+ เดือนก.ค. 51 พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ +
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 3:00 am
นี่เป็นสารส่วนตัวของคน ๆ หนึ่ง แต่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมีความทุกข์นะคะ
จึงนำมาแชร์ค่ะ
+++++++
ลูกที่รัก แม่เข้าใจดีถึงความร้อนใจของลูก ด้วยว่าลูกมีเจนาดีที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยความมีน้ำใจของลูกแม่จึงอนุญาตให้ลูกได้ถามแม่ได้ดั่งประสงค์ สิ่งที่แม่อยากจะฝากบอกไปก็คือ
“แม่ขอขอบใจที่ลูกยึดถือแม่เป็นที่พึ่งและความหวังสุดท้ายของลูก หนทางดำเนินชีวิตของลูกบนโลกนี้นั้นมิได้ราบเรียบมาตั้งแต่ต้น จึงเป็นเหตุให้ลูกท้อแท้และสิ้นหวังหลายครั้งหลายหน ลูกที่รักของแม่ ในยามที่ลูกเป็นทุกข์ใจอย่างที่สุด ณ เวลานั้นแม่ขอให้ลูกตระหนักใจเถิดว่า ลูกกำลังอยู่ในช่วงแห่งการทดลองจิตใจของลูกเอง หากลูกนำแต่เรื่องขัดข้องใจและเศร้าหมองเข้ามาในสมองของลูก ลูกก็จะไม่พบหนทางออก ทุกอย่างก็จะเป็นทางตันไปหมดสำหรับลูก ยิ่งทำให้ลูกเพิ่มความกดดันให้ตัวของลูกเองมากขึ้นทุกที โรคภัยที่ลูกเป็นอยู่ในขณะนี้ก็มีสาเหตุมาจากความกดดันที่ลูกสรรหามาเพิ่ม ให้ตนเองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
ลูกเคยเห็นคนตาบอดคนใดที่เป็นใบ้และ หูหนวกด้วยไหม คนตาบอดจะได้รับการชดเชยให้มีทักษะพิเศษในการสัมผัสและการฟัง ส่วนผู้ที่หูหนวกนั้นทำให้ไม่ได้ยินเขาจึงไม่อาจพูดได้ แต่พระบิดาเจ้าสวรรค์ก็ทรงเมตตาให้เขามีประสาทตาที่ดีและมีทักษะในการสื่อ สารด้วยวิธีอื่นมาทดแทน เหตุที่แม่ต้องกล่าวนำเช่นนี้ก็เพราะว่าลูกของแม่กำลังแบกความทุกข์ไว้ทั้ง หมดโดยมิคิดจะปล่อยวางและให้โอกาสตนเองทำความเข้าใจกับจิตภายในของลูกบ้าง ตอนนี้ลูกจึงเปรียบเสมือน เป็นทั้งคนที่หูหนวกเป็นใบ้และตาบอดในเวลาเดียวกัน แล้วลูกก็ยังซ้ำเติมตนเองอีกว่าทำไมลูกต้องเป็นเช่นนี้ด้วย จงอย่าลงโทษตัวเองเลยลูกรัก ลูกมิสามารถพิพากษาผู้ใดได้ดอกแม้กระทั่งตัวของลูกเอง ณ เวลาเช่นนี้ ขอให้ลูกถามตนเองก่อนว่า ลูกมีความไว้วางใจในน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้าสวรรค์เพียงใด เพียงเท่านี้ลูกก็คงตอบได้แล้วซินะว่าในช่วงเวลานี้ลูกขาดสิ่งใด
หาก ลูกต้องการคำแนะนำจากแม่ แม่ก็ขอแจ้งแก่ลูกว่า แม่ขอให้ลูกละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างนอกพระวิหารในดวงใจลูกเสียก่อน เหตุว่าจิตใจของลูกนั้นสับสนวุ่นวายเกินกว่าที่จะมีที่ว่างสำหรับพระจิตเจ้า ได้เข้ามานำแสงสว่างแห่งปรีชาญาณมาให้ลูกได้ ลูกจะต้องเรียนรู้ที่จะทำจิตใจให้สงบนิ่ง เหมือนน้ำในทะเลสาบที่ปราศจากคลื่นลม จงพักจากสมองอันเมื่อยล้าแล้วเข้ามาสู่สายน้ำแห่งความรัก ความเมตตาขององค์พระบุตรสุดที่รักของแม่เถิด พระเมตตาของพระองค์นั้นเปรียบได้ดั่งน้ำที่บริสุทธิ์สะอาดสดใส ขอให้ลูกจงนำน้ำนี้ไปชโลมจิตใจของลูกเถิด ลูกจะรู้สึกถึงความสดชื่นเบิกบานในดวงใจได้เมื่อลูกยอมละทิ้งตนเองและเข้ามา พำนักอยู่ในพระวิหารในดวงใจ ของลูกนั่นเอง
ลูกคงมีข้อสงสัยว่าแม่ กำลังบอกอะไรลูกอยู่ แม่ก็ขอถามลูกกลับดูบ้างว่า ลูกเข้าใจว่าอย่างไร ลูกบอกว่าลูกรู้ทุกอย่างอยู่บ่อยๆ แต่สิ่งที่ลูกทำเป็นไม่รู้ก็คือการรู้จักน้ำใจของตนเอง
แม่เข้าใจใน ปัญหาของลูกเสมอ จงอย่าให้งานของปีศาจเข้ามามีอิทธิพลเหนือคุณธรรมในจิตใจของลูก จงมองลึกเข้าไปในหัวใจของลูก จงฟังเสียงจากที่นั่น มิใช่ฟังเสียงที่ผ่านเข้ามาในสมองของลูกในขณะนี้
แม่ขอให้ลูกทำจิต ใจให้สงบนิ่งสักระยะหนึ่งก่อนเถิด หมั่นสวดภาวนาและประสานใจเป็นหนึ่งเดียวกับแม่ ตอนนี้ลูกอย่าได้นึกถึงแต่ตนเอง จงทำเยี่ยงนักบุญทั้งหลายเถิด จงทำเพื่อประโยชน์สุขและความรอดทางฝ่ายจิตวิญญาณของผู้คนเป็นจำนวนมาก่อน เถิด เมื่อลูกอยู่ในพระหรรษทานแล้ว จงขอความสว่างจากองค์พระจิตเจ้าเถิด ขอให้พระองค์มาประทับที่พระวิหารน้อยๆในดวงใจของลูก จงปรึกษากับพระองค์ในความสงบแห่งดวงใจของลูกเถิด ด้วยพระปรีชาญาณลูกจะพบหนทางที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆได้โดยมิลำบาก
แม่ รู้ว่าลูกอยากได้คำตอบที่ชัดเจนมากกว่านี้ แต่อะไรที่ได้มาง่ายๆมันก็มักจะไร้ค่าเสมอ เรื่องนี้แม่อยากให้ลูกได้เรียนรู้น้ำใจของตนเองก่อนเถิด ลูกรู้จักตนเองดีพอแล้วหรือยัง
แม่ขอเตือนว่าลูกอย่าได้ใจร้อนเป็น อันขาด มิฉะนั้นสิ่งที่ลูกคิดอาจจะมิใช่ทางเลือกที่แท้จริงของลูกก็ได้ จงแก้ปัญหาด้วยการเผชิญปัญหา แม่รู้ว่าการหางานใหม่ของลูกไม่ใช่เรื่องยาก เพราะจิตใจของลูกในตอนนี้สามารถละเว้นได้ในทุกๆเรื่อง ขอเพียงแต่ให้ปัญหาเฉพาะหน้านี้หมดสิ้นไป แต่ผลลัพธ์ที่ลูกจะได้หลังจากนั้นคืออะไร ลูกมีแผนการอะไรรองรับไว้แล้วหรือยัง
ลูกที่รัก จงหัดนิ่งบ้างเถิด นิ่งเพื่อสำรวจจิตใจของตนเอง นิ่งเพื่อชำระและขัดเกลาจิตวิญญาณ และนิ่งเพื่อกราบนมัสการพระบิดาเจ้าสวรรค์ในพระวิหารในดวงใจของลูกนั่นเอง จงเรียกความไว้วางใจของลูกกลับคืนมา และอย่าตกหลุมพลางกลอุบายของปีศาจอีก
สันติสุขจะบังเกิดในดวงใจของลูกได้ ก็ต่อเมื่อลูกยอมรับให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้าสวรรค์ จงดูแม่เป็นตัวอย่างเถิด แม่สุขใจทุกครั้งที่ได้ทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ แม่รักลูกเสมอ และขอบใจที่นึกถึงแม่ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากนี้”
จึงนำมาแชร์ค่ะ
+++++++
พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ
วันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2008 เวลา 07.15-08.25น.ลูกที่รัก แม่เข้าใจดีถึงความร้อนใจของลูก ด้วยว่าลูกมีเจนาดีที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยความมีน้ำใจของลูกแม่จึงอนุญาตให้ลูกได้ถามแม่ได้ดั่งประสงค์ สิ่งที่แม่อยากจะฝากบอกไปก็คือ
“แม่ขอขอบใจที่ลูกยึดถือแม่เป็นที่พึ่งและความหวังสุดท้ายของลูก หนทางดำเนินชีวิตของลูกบนโลกนี้นั้นมิได้ราบเรียบมาตั้งแต่ต้น จึงเป็นเหตุให้ลูกท้อแท้และสิ้นหวังหลายครั้งหลายหน ลูกที่รักของแม่ ในยามที่ลูกเป็นทุกข์ใจอย่างที่สุด ณ เวลานั้นแม่ขอให้ลูกตระหนักใจเถิดว่า ลูกกำลังอยู่ในช่วงแห่งการทดลองจิตใจของลูกเอง หากลูกนำแต่เรื่องขัดข้องใจและเศร้าหมองเข้ามาในสมองของลูก ลูกก็จะไม่พบหนทางออก ทุกอย่างก็จะเป็นทางตันไปหมดสำหรับลูก ยิ่งทำให้ลูกเพิ่มความกดดันให้ตัวของลูกเองมากขึ้นทุกที โรคภัยที่ลูกเป็นอยู่ในขณะนี้ก็มีสาเหตุมาจากความกดดันที่ลูกสรรหามาเพิ่ม ให้ตนเองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
ลูกเคยเห็นคนตาบอดคนใดที่เป็นใบ้และ หูหนวกด้วยไหม คนตาบอดจะได้รับการชดเชยให้มีทักษะพิเศษในการสัมผัสและการฟัง ส่วนผู้ที่หูหนวกนั้นทำให้ไม่ได้ยินเขาจึงไม่อาจพูดได้ แต่พระบิดาเจ้าสวรรค์ก็ทรงเมตตาให้เขามีประสาทตาที่ดีและมีทักษะในการสื่อ สารด้วยวิธีอื่นมาทดแทน เหตุที่แม่ต้องกล่าวนำเช่นนี้ก็เพราะว่าลูกของแม่กำลังแบกความทุกข์ไว้ทั้ง หมดโดยมิคิดจะปล่อยวางและให้โอกาสตนเองทำความเข้าใจกับจิตภายในของลูกบ้าง ตอนนี้ลูกจึงเปรียบเสมือน เป็นทั้งคนที่หูหนวกเป็นใบ้และตาบอดในเวลาเดียวกัน แล้วลูกก็ยังซ้ำเติมตนเองอีกว่าทำไมลูกต้องเป็นเช่นนี้ด้วย จงอย่าลงโทษตัวเองเลยลูกรัก ลูกมิสามารถพิพากษาผู้ใดได้ดอกแม้กระทั่งตัวของลูกเอง ณ เวลาเช่นนี้ ขอให้ลูกถามตนเองก่อนว่า ลูกมีความไว้วางใจในน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้าสวรรค์เพียงใด เพียงเท่านี้ลูกก็คงตอบได้แล้วซินะว่าในช่วงเวลานี้ลูกขาดสิ่งใด
หาก ลูกต้องการคำแนะนำจากแม่ แม่ก็ขอแจ้งแก่ลูกว่า แม่ขอให้ลูกละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างนอกพระวิหารในดวงใจลูกเสียก่อน เหตุว่าจิตใจของลูกนั้นสับสนวุ่นวายเกินกว่าที่จะมีที่ว่างสำหรับพระจิตเจ้า ได้เข้ามานำแสงสว่างแห่งปรีชาญาณมาให้ลูกได้ ลูกจะต้องเรียนรู้ที่จะทำจิตใจให้สงบนิ่ง เหมือนน้ำในทะเลสาบที่ปราศจากคลื่นลม จงพักจากสมองอันเมื่อยล้าแล้วเข้ามาสู่สายน้ำแห่งความรัก ความเมตตาขององค์พระบุตรสุดที่รักของแม่เถิด พระเมตตาของพระองค์นั้นเปรียบได้ดั่งน้ำที่บริสุทธิ์สะอาดสดใส ขอให้ลูกจงนำน้ำนี้ไปชโลมจิตใจของลูกเถิด ลูกจะรู้สึกถึงความสดชื่นเบิกบานในดวงใจได้เมื่อลูกยอมละทิ้งตนเองและเข้ามา พำนักอยู่ในพระวิหารในดวงใจ ของลูกนั่นเอง
ลูกคงมีข้อสงสัยว่าแม่ กำลังบอกอะไรลูกอยู่ แม่ก็ขอถามลูกกลับดูบ้างว่า ลูกเข้าใจว่าอย่างไร ลูกบอกว่าลูกรู้ทุกอย่างอยู่บ่อยๆ แต่สิ่งที่ลูกทำเป็นไม่รู้ก็คือการรู้จักน้ำใจของตนเอง
แม่เข้าใจใน ปัญหาของลูกเสมอ จงอย่าให้งานของปีศาจเข้ามามีอิทธิพลเหนือคุณธรรมในจิตใจของลูก จงมองลึกเข้าไปในหัวใจของลูก จงฟังเสียงจากที่นั่น มิใช่ฟังเสียงที่ผ่านเข้ามาในสมองของลูกในขณะนี้
แม่ขอให้ลูกทำจิต ใจให้สงบนิ่งสักระยะหนึ่งก่อนเถิด หมั่นสวดภาวนาและประสานใจเป็นหนึ่งเดียวกับแม่ ตอนนี้ลูกอย่าได้นึกถึงแต่ตนเอง จงทำเยี่ยงนักบุญทั้งหลายเถิด จงทำเพื่อประโยชน์สุขและความรอดทางฝ่ายจิตวิญญาณของผู้คนเป็นจำนวนมาก่อน เถิด เมื่อลูกอยู่ในพระหรรษทานแล้ว จงขอความสว่างจากองค์พระจิตเจ้าเถิด ขอให้พระองค์มาประทับที่พระวิหารน้อยๆในดวงใจของลูก จงปรึกษากับพระองค์ในความสงบแห่งดวงใจของลูกเถิด ด้วยพระปรีชาญาณลูกจะพบหนทางที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆได้โดยมิลำบาก
แม่ รู้ว่าลูกอยากได้คำตอบที่ชัดเจนมากกว่านี้ แต่อะไรที่ได้มาง่ายๆมันก็มักจะไร้ค่าเสมอ เรื่องนี้แม่อยากให้ลูกได้เรียนรู้น้ำใจของตนเองก่อนเถิด ลูกรู้จักตนเองดีพอแล้วหรือยัง
แม่ขอเตือนว่าลูกอย่าได้ใจร้อนเป็น อันขาด มิฉะนั้นสิ่งที่ลูกคิดอาจจะมิใช่ทางเลือกที่แท้จริงของลูกก็ได้ จงแก้ปัญหาด้วยการเผชิญปัญหา แม่รู้ว่าการหางานใหม่ของลูกไม่ใช่เรื่องยาก เพราะจิตใจของลูกในตอนนี้สามารถละเว้นได้ในทุกๆเรื่อง ขอเพียงแต่ให้ปัญหาเฉพาะหน้านี้หมดสิ้นไป แต่ผลลัพธ์ที่ลูกจะได้หลังจากนั้นคืออะไร ลูกมีแผนการอะไรรองรับไว้แล้วหรือยัง
ลูกที่รัก จงหัดนิ่งบ้างเถิด นิ่งเพื่อสำรวจจิตใจของตนเอง นิ่งเพื่อชำระและขัดเกลาจิตวิญญาณ และนิ่งเพื่อกราบนมัสการพระบิดาเจ้าสวรรค์ในพระวิหารในดวงใจของลูกนั่นเอง จงเรียกความไว้วางใจของลูกกลับคืนมา และอย่าตกหลุมพลางกลอุบายของปีศาจอีก
สันติสุขจะบังเกิดในดวงใจของลูกได้ ก็ต่อเมื่อลูกยอมรับให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้าสวรรค์ จงดูแม่เป็นตัวอย่างเถิด แม่สุขใจทุกครั้งที่ได้ทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ แม่รักลูกเสมอ และขอบใจที่นึกถึงแม่ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากนี้”