การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบาปมั้ย
อยากทราบจริงๆว่า การช่วยเหลือตัวเองเนียมันบาปป่าว เท่าที่ศึกษามา ชอบตอบกันแบบคลุมเครือ อยากได้คำตอบแบบตรง เลยว่า บาปหรือไม่บาป
แล้ว เวลาทำแล้วเนียต้องไปสารบาปกับพระสงฆ์ไหม แล้วเราจะบอกพระสงฆ์ว่ายังไง ผู้รู้กรุณาตอบให้หน่อย เอาแบบรู้จริงนะ ขอบคุณมาก
แล้ว เวลาทำแล้วเนียต้องไปสารบาปกับพระสงฆ์ไหม แล้วเราจะบอกพระสงฆ์ว่ายังไง ผู้รู้กรุณาตอบให้หน่อย เอาแบบรู้จริงนะ ขอบคุณมาก
แก้ไขล่าสุดโดย pelouse เมื่อ จันทร์ พ.ค. 05, 2008 11:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
บาปสิ
พระคัมภีร์บอกแล้วว่า แค่ใจคิดอุลามกก็บาปแล้ว
นี่ยังปลงใจอีก
ก็บอกตรงๆสิครับว่า สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
ปล.อ่านนี้กำกับด้วยครับ
http://www.newmana.com/Holy/self.htm
พระคัมภีร์บอกแล้วว่า แค่ใจคิดอุลามกก็บาปแล้ว
นี่ยังปลงใจอีก
ก็บอกตรงๆสิครับว่า สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
ปล.อ่านนี้กำกับด้วยครับ
http://www.newmana.com/Holy/self.htm
บาปอยู่แล้วครับ
ลี วูจิน เขียน: บาปอยู่แล้วครับ
หากยึดตามข้อความเชื่อที่เราเรียนกันมา ก็ถือว่าบาป บาปในความหมายของคริสตัง คือการห่างเหินและลดดีกรีความผูกพันระหว่างเรากับพระลงไป ไม่เหมืีอนความหมายในศาสนาอื่นๆ เหมือนเรากับพระคือRelationทางจิตใจและจิตวิญญาณ การทำบาป(หรือตกในบาป)คือการลดดีกรีความสัมพัีนธ์ระหว่างเรากับพระลงไป ทางด้านพระหรรษทานและจิตวิญาณน แต่........พูดก็พูดเหอะ หากไม่ต้องช่วยตัวเองเลย ป่านนี้ทำสาวท้องไปหลายคนแล้ว
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
โอววว อิอิPry-Kaew เขียน:ลี วูจิน เขียน: บาปอยู่แล้วครับ
หากยึดตามข้อความเชื่อที่เราเรียนกันมา ก็ถือว่าบาป บาปในความหมายของคริสตัง คือการห่างเหินและลดดีกรีความผูกพันระหว่างเรากับพระลงไป ไม่เหมืีอนความหมายในศาสนาอื่นๆ เหมือนเรากับพระคือRelationทางจิตใจและจิตวิญญาณ การทำบาป(หรือตกในบาป)คือการลดดีกรีความสัมพัีนธ์ระหว่างเรากับพระลงไป ทางด้านพระหรรษทานและจิตวิญาณน แต่........พูดก็พูดเหอะ หากไม่ต้องช่วยตัวเองเลย ป่านนี้ทำสาวท้องไปหลายคนแล้ว
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ขอบคุณครับ
Pry-Kaew เขียน: พูดก็พูดเหอะ หากไม่ต้องช่วยตัวเองเลย ป่านนี้ทำสาวท้องไปหลายคนแล้ว
พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ....
พูดก็พูดเถอะ ทำไมเราถึงโกหกซึ่งๆหน้าเรียกการสนองความใคร่ว่าเป็นการช่วยตัวเอง :huh:Pry-Kaew เขียน: แต่........พูดก็พูดเหอะ หากไม่ต้องช่วยตัวเองเลย ป่านนี้ทำสาวท้องไปหลายคนแล้ว
ที่จริงมันคือ การทำร้ายตัวเอง ชัดๆ
นอกจากทางกายภาพ (ที่จะทำให้หลั่งเร็ว)แล้ว
ด้านจิตใจยังจะทำให้เราด้านชากับความบาปและนำไปสู่การหมกมุ่นตลอดจนการข่มขืนกระทำชำเราได้อีกด้วย
ขอพระเจ้าสถิตกับท่าน
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 17, 2008 9:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน:พูดก็พูดเถอะ ทำไมเราถึงโกหกซึ่งๆหน้าเรียกการสนองความใคร่ว่าเป็นการช่วยตัวเอง :huh:Pry-Kaew เขียน: แต่........พูดก็พูดเหอะ หากไม่ต้องช่วยตัวเองเลย ป่านนี้ทำสาวท้องไปหลายคนแล้ว
ที่จริงมันคือ การทำร้ายตัวเอง ชัดๆ
นอกจากทางกายภาพ (ที่จะทำให้หลั่งเร็ว)แล้ว
ด้านจิตใจยังจะทำให้เราด้านชากับความบาปและนำไปสู่การหมกมุ่นตลอดจนการข่มขืนกระทำชำเราได้อีกด้วย
ขอพระเจ้าสถิตกับท่าน
หวัดดีน้องยศ ..
ถ้างั้นก็ถามเลยว่า "ในเว็บ Newmana.com ผู้ชายที่อายุเลย 15 แล้ว คนไหนบ้างที่ยังไม่เคยช่วยตัวเอง ขอให้โพสต์บอกด้วยครับ"
อยากรู้นะครับว่า ผ่านไป 1 เดือน แล้วไม่ช่วยตัวเองแล้วมันเป็นยังไง แล้ว ใช้วิธีการไหนถึงระงับความอยากช่วยตัวเองได้ครับ
เอ่อ ขออภัย ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้ชาย เเต่คิดว่าตรงนี้ออกเป็นการถามไถ่เรื่องส่วนตัวไปหน่อยน่ะค่ะ...นายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: ถ้างั้นก็ถามเลยว่า "ในเว็บ Newmana.com ผู้ชายที่อายุเลย 15 แล้ว คนไหนบ้างที่ยังไม่เคยช่วยตัวเอง ขอให้โพสต์บอกด้วยครับ"
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
บาป ก็ คือ บาป หาข้ออ้างยังไงมันก็บาป มนุษย์นั้นเองก็บกพร่องอยู่แล้ว ง่ายต่อการตกอยู่ในบาป ก็คงต้องอาศัยการสวดภาวนา แม้แต่ผมเองก็ไม่พ้นการทำบาปนี้เช่นกัน
สุดท้ายก็แล้วแต่มโนธรรมภายในใจแหละครับ ว่าหลังจากทำแบบนั้นแล้วคุณรู้สึกผิดต่อพระไหม
สุดท้ายก็แล้วแต่มโนธรรมภายในใจแหละครับ ว่าหลังจากทำแบบนั้นแล้วคุณรู้สึกผิดต่อพระไหม
เยอะแยะไปครับนายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: อยากรู้นะครับว่า ผ่านไป 1 เดือน แล้วไม่ช่วยตัวเองแล้วมันเป็นยังไง แล้ว ใช้วิธีการไหนถึงระงับความอยากช่วยตัวเองได้ครับ
ออกกำลังกายมากๆ-บำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่น-ทรมานตัวเอง(แบบเบาๆเช่น หยิก/ดีดหนังสติกใส่ตัวเองเวลามีอารมณ์)
พูดถึงทรมาน จะดูความทรมานของคนอื่นแทนก็ได้นะครับ
ใครคนหนึ่ง....ใช้เวลาตลอดคืน เอาชนะใจตัวเอง
ใครคนนึ่ง.....ที่ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ยอมทนทุกข์และตายเพื่อเรา
พระคริสตเจ้าทรงเป็นเจ้านายที่สุภาพอ่อนโยน
"ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด
เราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงรับเอาแอกของเราแบกไว้และมาเป็นศิษย์ของเรา
เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน
เพราะว่าแอกของเราอ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา"
มธ 11:28-30
อารมณ์ทางเพศถือเป็นเรื่องจิ้บจ้อยถ้าเทียบกับอานุภาพของกางเขนครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ เม.ย. 18, 2008 6:28 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
นั่นสิ...เล่นเอาสำลักน้ำใส้ Monitor เลยครับEcclēsia เขียน:เอ่อ ขออภัย ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้ชาย เเต่คิดว่าตรงนี้ออกเป็นการถามไถ่เรื่องส่วนตัวไปหน่อยน่ะค่ะ...นายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: ถ้างั้นก็ถามเลยว่า "ในเว็บ Newmana.com ผู้ชายที่อายุเลย 15 แล้ว คนไหนบ้างที่ยังไม่เคยช่วยตัวเอง ขอให้โพสต์บอกด้วยครับ"
ปล. ข้าพเจ้าอายุ 20 แล้ว เง้อ...
ใช่ครับEcclēsia เขียน:เอ่อ ขออภัย ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้ชาย เเต่คิดว่าตรงนี้ออกเป็นการถามไถ่เรื่องส่วนตัวไปหน่อยน่ะค่ะ...นายแทม ณ เชียงใหม่ เขียน: ถ้างั้นก็ถามเลยว่า "ในเว็บ Newmana.com ผู้ชายที่อายุเลย 15 แล้ว คนไหนบ้างที่ยังไม่เคยช่วยตัวเอง ขอให้โพสต์บอกด้วยครับ"
ยังไงก็บาปอ่ะนะ เพราะพระเป็นเจ้าให้อารมณ์นี้ไว้ เพื่อสืบเผ่าพันธุ์ ให้มีลูกหลานถ้าเราใช้เครื่องมือที่พระเป็นเจ้าทรงประทานให้ผิดพระประสงค์ของพระองค์ก็ต้องเกิดบาปอย่างแน่นนอน
เราเองก็ยังต้องเคารพต่อร่างกายของเราเพราะพระจิตเจ้าทรงเริ่มทำงานในตัวเราตั้งแต่วันที่เรารับศีลล้างบาปและทรงประจักษ์หน้าที่อย่างเด่นชัดในวันที่เรารับศีลกำลัง เพื่อเราจะได้กลับเป็นคริสตชนที่สมบูรณ์ เราต้องสำนึกอยู่เสมอว่า "ร่างกายเรา คือวิหารของพระจิตเจ้า" ถ้าสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองแล้วพระจิตเจ้าจะไปอยู่ที่ไหน จริงอยู่ที่ว่าเราสามารถคืนดีกับพระองค์ได้ทางศีลอภัยบาปแต่ถ้ารู้ตัวและยังปลงใจในความอุลามกการแก้บาปแต่ละครั้งก็ไม่ได้ทำให้เรามีมโนธรรมที่สูงขึ้นเลย ดูเถิด..พระเยซูเจ้าทรงอยากให้เราทั้งหลายกลับเป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากบาปจนต้องยอมทนทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเช่นนั้นเพราะทรงรักเราอยากให้เราปราศจากบาป ส่วนเรา กล้าที่จะปฏิเสธบาปเพราะเห็นแก่ความรักของพระองค์รึปล่าว
จริงอยู่ที่เราทุกคนต่างก็มีอารมณ์เช่นนี้แต่เราต้องอย่ายอมแพ้การประจญของปีศาจที่จะทำให้เราเสียวิญญาณได้
- หมั่นยกจิตใจขึ้นหาพระองค์อยู่บ่อยๆสวดภาวนามากๆเพื่อให้พ้นจากการประจญเพราะเห็นแก่ความรักของพระองค์
ขอพระจิตเจ้าอวยพรค่ะ
เราเองก็ยังต้องเคารพต่อร่างกายของเราเพราะพระจิตเจ้าทรงเริ่มทำงานในตัวเราตั้งแต่วันที่เรารับศีลล้างบาปและทรงประจักษ์หน้าที่อย่างเด่นชัดในวันที่เรารับศีลกำลัง เพื่อเราจะได้กลับเป็นคริสตชนที่สมบูรณ์ เราต้องสำนึกอยู่เสมอว่า "ร่างกายเรา คือวิหารของพระจิตเจ้า" ถ้าสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองแล้วพระจิตเจ้าจะไปอยู่ที่ไหน จริงอยู่ที่ว่าเราสามารถคืนดีกับพระองค์ได้ทางศีลอภัยบาปแต่ถ้ารู้ตัวและยังปลงใจในความอุลามกการแก้บาปแต่ละครั้งก็ไม่ได้ทำให้เรามีมโนธรรมที่สูงขึ้นเลย ดูเถิด..พระเยซูเจ้าทรงอยากให้เราทั้งหลายกลับเป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากบาปจนต้องยอมทนทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเช่นนั้นเพราะทรงรักเราอยากให้เราปราศจากบาป ส่วนเรา กล้าที่จะปฏิเสธบาปเพราะเห็นแก่ความรักของพระองค์รึปล่าว
จริงอยู่ที่เราทุกคนต่างก็มีอารมณ์เช่นนี้แต่เราต้องอย่ายอมแพ้การประจญของปีศาจที่จะทำให้เราเสียวิญญาณได้
- หมั่นยกจิตใจขึ้นหาพระองค์อยู่บ่อยๆสวดภาวนามากๆเพื่อให้พ้นจากการประจญเพราะเห็นแก่ความรักของพระองค์
ขอพระจิตเจ้าอวยพรค่ะ
- Moidixmois
- โพสต์: 42
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 17, 2008 7:00 am
- ที่อยู่: In My Memory
- ติดต่อ:
แค่คิดก็บาปแล้ว
จิตนิ่งใจนิ่งสงบความเคลื่อนไหว หึๆ
จิตนิ่งใจนิ่งสงบความเคลื่อนไหว หึๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Moidixmois เมื่อ เสาร์ เม.ย. 19, 2008 4:03 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
หาเวลาทำอย่างอื่นแทนดิ เช่น
เล่นกีฬา ปลูกต้นไม้ ไปดูหนัง ไปแช่แอร์ในห้างใกล้บ้าน ดูหนังมันส์ๆ ฯลฯ
(ห้ามดูหนังอะไรที่ขัดกับความเชื่อ หรือ หนัง...โ..๊ เสริมมันเข้าไปอีกก็แล้วกัน): xemo033 :
คนที่ทำไปแล้ว หรือกำลังทำอยู่ ก็กลับใจซะ พระท่านเห็นใจและเมตตาเราอยู่แล้วล่ะ
เล่นกีฬา ปลูกต้นไม้ ไปดูหนัง ไปแช่แอร์ในห้างใกล้บ้าน ดูหนังมันส์ๆ ฯลฯ
(ห้ามดูหนังอะไรที่ขัดกับความเชื่อ หรือ หนัง...โ..๊ เสริมมันเข้าไปอีกก็แล้วกัน): xemo033 :
คนที่ทำไปแล้ว หรือกำลังทำอยู่ ก็กลับใจซะ พระท่านเห็นใจและเมตตาเราอยู่แล้วล่ะ
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
อืม ... น่าคิด ...
ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า ... บาป ...
แต่จะมีสักคนที่ ไม่ทำ ... บาป ... ละเนี่ย
เหมือนถ้าให้ผมไปสอนคนอื่น ผมก็สอนได้นะ ... แต่ปฏิบัติยังห่างไกลมากเลย
เคยพยายาม ลด ละ เลิก ห่างๆ มันไป แต่ยากจริงๆ ...
แต่ละคนมีจุดอ่อน (จุดตกไปในบาป) กันคนละด้าน
เอาบาปต้น 7 ประการ มาไล่กันเลย
1. จองหอง ก็มีบ้างนะ นานๆ เหมือนกัน ตอนที่จะต้องแสดงความสามารถอะไรบางอย่างมันก็พอมี
2. ตะหนี่ แต่ก่อนมีเยอะ แต่เดี๋ยวนี้ พอเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ไม่ค่อยมีอะ (หลายคนมีข้อนี้กันเยอะ)
3. อุลามก อันนี้จุดอ่อนผม
4. อิจฉา บางคนนะ เลิกข้อนี้ไม่ได้ สำหรับผมมีบ้างนานๆๆๆๆ ที
5. โลภ ข้อนี้ก็มีกันในหลายๆ คน ผมก็มี มีเป็นบางเรื่อง ไม่ได้โลภสะทุกเรื่อง และดีกรีก็ต่างกัน
6. โมโห ก็พอมีบ้าง
7. เกียจคร้าน อันนี้ก็พอๆ กัน มันมาคู่กับ ข้อ 3 บ้าง
หากมาทำเป็นสถิติ ใน 7 ข้อ แต่ละคนแต่งต่างกัน ชัวร์
บาปบางอัน ก็พาให้เราทำบาปข้ออื่นด้วย
ที่อยากจะบอกก็คือ บางครั้งผมก็วิจารณ์ซะมากไป แต่ไม่ค่อยได้ปฏิบัติ
กลายเป็นว่า สิ่งที่เราพูดไป มันไม่มีน้ำหนัก ...
แต่ผมชื่นชม คนที่ห้ามบาป ข้อ 3 ได้นะ เก่งมาก
แต่อีกนั่นแหละ หากคนที่เกิดมาแล้ว ไม่เคยได้ยินยล หรือชิมลาง เจ้าข้อ 3
โอกาสจะไปตกในบาปนั้นอะ ... ไม่ค่อยมี ... นี่เราโชคดี หรือ เราโชคร้าย ที่มีโอกาสแบบนั้น
เหอๆ
ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่า ... บาป ...
แต่จะมีสักคนที่ ไม่ทำ ... บาป ... ละเนี่ย
เหมือนถ้าให้ผมไปสอนคนอื่น ผมก็สอนได้นะ ... แต่ปฏิบัติยังห่างไกลมากเลย
เคยพยายาม ลด ละ เลิก ห่างๆ มันไป แต่ยากจริงๆ ...
แต่ละคนมีจุดอ่อน (จุดตกไปในบาป) กันคนละด้าน
เอาบาปต้น 7 ประการ มาไล่กันเลย
1. จองหอง ก็มีบ้างนะ นานๆ เหมือนกัน ตอนที่จะต้องแสดงความสามารถอะไรบางอย่างมันก็พอมี
2. ตะหนี่ แต่ก่อนมีเยอะ แต่เดี๋ยวนี้ พอเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ไม่ค่อยมีอะ (หลายคนมีข้อนี้กันเยอะ)
3. อุลามก อันนี้จุดอ่อนผม
4. อิจฉา บางคนนะ เลิกข้อนี้ไม่ได้ สำหรับผมมีบ้างนานๆๆๆๆ ที
5. โลภ ข้อนี้ก็มีกันในหลายๆ คน ผมก็มี มีเป็นบางเรื่อง ไม่ได้โลภสะทุกเรื่อง และดีกรีก็ต่างกัน
6. โมโห ก็พอมีบ้าง
7. เกียจคร้าน อันนี้ก็พอๆ กัน มันมาคู่กับ ข้อ 3 บ้าง
หากมาทำเป็นสถิติ ใน 7 ข้อ แต่ละคนแต่งต่างกัน ชัวร์
บาปบางอัน ก็พาให้เราทำบาปข้ออื่นด้วย
ที่อยากจะบอกก็คือ บางครั้งผมก็วิจารณ์ซะมากไป แต่ไม่ค่อยได้ปฏิบัติ
กลายเป็นว่า สิ่งที่เราพูดไป มันไม่มีน้ำหนัก ...
แต่ผมชื่นชม คนที่ห้ามบาป ข้อ 3 ได้นะ เก่งมาก
แต่อีกนั่นแหละ หากคนที่เกิดมาแล้ว ไม่เคยได้ยินยล หรือชิมลาง เจ้าข้อ 3
โอกาสจะไปตกในบาปนั้นอะ ... ไม่ค่อยมี ... นี่เราโชคดี หรือ เราโชคร้าย ที่มีโอกาสแบบนั้น
เหอๆ
- thanachard
- โพสต์: 134
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 30, 2007 3:00 pm
- ที่อยู่: ฺBangkok, Thailand
อืม ไม่ได้เป็นคาทอลิก แต่มาแสดงความเห็นหน่อยครับ
ในฐานะที่เมื่อก่อนก็เคยเสพติดการช่วยเหลือทางเพศ
คนที่ทำการช่วยเหลือทางเพศนั้น
เคยรู้สึกไหมว่า หลังจากกระทำนั้น เหมือนไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ (พระจิต) มาอยู่ที่ตัวเรา
ถ้าใครจะเลิกการช่วยเหลือทางเพศ
ให้ระลึกถึงพระเจ้า ข่มใจ ทุกเวลานึกถึงพระเจ้าอย่างเดียวเลยครับ
นึกถึงความบริสุทธิ์ของพระเยซูเจ้า ว่าพระองค์ไม่ใช้เครื่องมือในการสร้างมนุษย์ในทางที่ผิด
การยอมผ่อนปรน ยอมในเรื่องนี้ แม้แต่ครั้งเดียว จะทำให้กลับมาเสพติดอย่างเดิม และรุนแรงมากกว่าเดิม
อาการจะรุนแรงมากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะเริ่มดีขึ้น
แต่บางครั้ง จะมีอาการกลับมาเป็นระยะๆ ก็ต้องระลึกถึงพระ้เจ้าตลอดเวลา และหันไปทำอย่างอื่นซะ
และการดูหนังไม่ว่าจะ X หรือ R ก็ตาม มันจะยิ่งไปกระตุ้นความอยากมากขึ้น ก็ต้องงดเด็ดขาดนะครับ
เพราะสิ่งเหล่านี้ มันจะไปฝังในหัวสมองตลอด การจะลบภาพพวกนี้จากสมอง มันยากมาก ยากจริงๆ
เขียนมากไปหรือเปล่าเนี่ย
ในฐานะที่เมื่อก่อนก็เคยเสพติดการช่วยเหลือทางเพศ
คนที่ทำการช่วยเหลือทางเพศนั้น
เคยรู้สึกไหมว่า หลังจากกระทำนั้น เหมือนไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ (พระจิต) มาอยู่ที่ตัวเรา
ถ้าใครจะเลิกการช่วยเหลือทางเพศ
ให้ระลึกถึงพระเจ้า ข่มใจ ทุกเวลานึกถึงพระเจ้าอย่างเดียวเลยครับ
นึกถึงความบริสุทธิ์ของพระเยซูเจ้า ว่าพระองค์ไม่ใช้เครื่องมือในการสร้างมนุษย์ในทางที่ผิด
การยอมผ่อนปรน ยอมในเรื่องนี้ แม้แต่ครั้งเดียว จะทำให้กลับมาเสพติดอย่างเดิม และรุนแรงมากกว่าเดิม
อาการจะรุนแรงมากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะเริ่มดีขึ้น
แต่บางครั้ง จะมีอาการกลับมาเป็นระยะๆ ก็ต้องระลึกถึงพระ้เจ้าตลอดเวลา และหันไปทำอย่างอื่นซะ
และการดูหนังไม่ว่าจะ X หรือ R ก็ตาม มันจะยิ่งไปกระตุ้นความอยากมากขึ้น ก็ต้องงดเด็ดขาดนะครับ
เพราะสิ่งเหล่านี้ มันจะไปฝังในหัวสมองตลอด การจะลบภาพพวกนี้จากสมอง มันยากมาก ยากจริงๆ
เขียนมากไปหรือเปล่าเนี่ย
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่หรอกครับ ดีแล้วthanachard เขียน: อืม ไม่ได้เป็นคาทอลิก แต่มาแสดงความเห็นหน่อยครับ
ในฐานะที่เมื่อก่อนก็เคยเสพติดการช่วยเหลือทางเพศ
คนที่ทำการช่วยเหลือทางเพศนั้น
เคยรู้สึกไหมว่า หลังจากกระทำนั้น เหมือนไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ (พระจิต) มาอยู่ที่ตัวเรา
ถ้าใครจะเลิกการช่วยเหลือทางเพศ
ให้ระลึกถึงพระเจ้า ข่มใจ ทุกเวลานึกถึงพระเจ้าอย่างเดียวเลยครับ
นึกถึงความบริสุทธิ์ของพระเยซูเจ้า ว่าพระองค์ไม่ใช้เครื่องมือในการสร้างมนุษย์ในทางที่ผิด
การยอมผ่อนปรน ยอมในเรื่องนี้ แม้แต่ครั้งเดียว จะทำให้กลับมาเสพติดอย่างเดิม และรุนแรงมากกว่าเดิม
อาการจะรุนแรงมากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะเริ่มดีขึ้น
แต่บางครั้ง จะมีอาการกลับมาเป็นระยะๆ ก็ต้องระลึกถึงพระ้เจ้าตลอดเวลา และหันไปทำอย่างอื่นซะ
และการดูหนังไม่ว่าจะ X หรือ R ก็ตาม มันจะยิ่งไปกระตุ้นความอยากมากขึ้น ก็ต้องงดเด็ดขาดนะครับ
เพราะสิ่งเหล่านี้ มันจะไปฝังในหัวสมองตลอด การจะลบภาพพวกนี้จากสมอง มันยากมาก ยากจริงๆ
เขียนมากไปหรือเปล่าเนี่ย
- homo dei
- โพสต์: 86
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 12:08 am
- ที่อยู่: 70/3 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000
- ติดต่อ:
เป็นบาปล้านเปอร์เซ็นต์ตามที่หลายๆท่านบอกนั่นแหละครับ
แต่เวลาสารภาพบาปควนบอกว่า "บาปผิดต่อความบริสุทธิ์" จะดีกว่าครับ เป็นคำสุภาพครับ เราจะได้ไม่เขิน และพ่อจะได้ไม่ขำด้วย
(บางครั้งพระสงฆ์ฟังแก้บาปก็ขำเหมือนกันนะ "คุณพ่อครับผมได้ ชัก.....3 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ"
....ช่ายป่ะ สอบถามมาจากพระสงฆ์บางท่าน ระบุไม่ได้เป็นความลับศีลอภัยบาป)
แต่เวลาสารภาพบาปควนบอกว่า "บาปผิดต่อความบริสุทธิ์" จะดีกว่าครับ เป็นคำสุภาพครับ เราจะได้ไม่เขิน และพ่อจะได้ไม่ขำด้วย
(บางครั้งพระสงฆ์ฟังแก้บาปก็ขำเหมือนกันนะ "คุณพ่อครับผมได้ ชัก.....3 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ"
....ช่ายป่ะ สอบถามมาจากพระสงฆ์บางท่าน ระบุไม่ได้เป็นความลับศีลอภัยบาป)
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ว่าจะไม่แสดงความเห็นในกระทู้นี้แล้วเชียวพระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: เป็นบาปล้านเปอร์เซ็นต์ตามที่หลายๆท่านบอกนั่นแหละครับ
แต่เวลาสารภาพบาปควนบอกว่า "บาปผิดต่อความบริสุทธิ์" จะดีกว่าครับ เป็นคำสุภาพครับ เราจะได้ไม่เขิน และพ่อจะได้ไม่ขำด้วย
(บางครั้งพระสงฆ์ฟังแก้บาปก็ขำเหมือนกันนะ "คุณพ่อครับผมได้ ชัก.....3 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ"
....ช่ายป่ะ สอบถามมาจากพระสงฆ์บางท่าน ระบุไม่ได้เป็นความลับศีลอภัยบาป)
แต่พอมีศัพท์ในการสารภาพบาปน่ะ บางทีใช้"ทำบาปด้วยมือ"ก็เก๋ดีครับ
เคยได้ยินคนใช้อยู่
เป็นเรื่องพื้นฐานของการสารภาพบาปเลยนะbomzaiya เขียน: คพ. หลายคนชอบถาม (เวลาแก้บาป) ว่า
ทำอะไรน่๊ะ! ช่วยตัวเอง, ทำอุลามก
กี่ครั้ง! ครั้งเดียว, สองครั้ง
กับใคร! คนเดียว, เพื่อน, คนอื่น
ชายหรือหญิง! ชาย, หญิง, ไม่บอกได้ไหม
เราสารภาพบาปกับพระเจ้า ผ่านทางคุณพ่อ
คิดว่าเราจะปกปิดอะไรพระเจ้าได้รึเปล่าละ :rolleyes: