<<: เล็กจริง ....พิษร้ายเหลือ:>>

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ค. 30, 2005 8:42 pm

เล็กจริง..พิษร้ายเหลือ

โดยโปรดปราน ( พีพี )


“ข้าแด่พระเจ้า ขอทรงตั้งยามเฝ้าปากของข้าพระองค์ ขอรักษาประตูริมฝีปากของ
ข้าพระองค์ ขออย่าให้จิตใจข้าพระองค์เอนเอียงไปหาความชั่วใดๆ
หรือให้ข้าพระองค์สาละวนอยู่กับการชั่วร้าย” (สดุดี ๑๔๑.๓-๔)


เมื่อ อ่านหนังสือสดุดีในพระคัมภีร์เก่า ฉันมักจะฉงนกับ คำภาวนาของกษัตริย์ดาวิดเสมอ เพราะเป็นคำภาวนาแปลกๆ ยากที่จะเข้าใจ และเหมือนจะเกินจริง แต่เห็นถึงความตั้งใจของดาวิดที่ไม่อยากอยู่ในวังวนของความบาป ท่านจึงภาวนาทูลขอต่อพระเจ้าตรงๆ และหนังสือสุภาษิต ก็เตือนสติเรื่องการ พูดไว้มากมายเช่นกัน ... เรื่องของคำพูดใน พระคัมภีร์ใหม่ หนังสือ ยากอบ เห็นภาพของนักบุญยากอบเน้นเรื่องความเชื่อที่นำไปปฏิบัติเป็นรูปธรรม..ทันทีที่อ่าน ตั้งแต่บทแรก ถึงบทที่ สาม ฉันคิดถึงคำภาวนาของดาวิดในสดุดี และคำสอนเตือนสติในสุภาษิต ว่าแท้จริงแล้ว เรื่องของปาก หรือลิ้นนี้สำคัญมาก เช่นยากอบ ๑.๑๙ กล่าวว่า “จงให้ทุกคนไว ในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ” ข้อ ๒๖ “ถ้าผู้ใดเข้าใจว่าตัวเองเป็นคนมีธัมมะและมิได้สงบปากคำ แต่หลอก ลวงตัวเองธัมมะของผู้นั้นก็ไม่เกิดประโยชน์”

ยากอบบทที่ ๓.๑-๑๒ กล่าวถึงเรื่องของลิ้น อวัยวะเล็กๆ ที่อยู่ภายในปาก ซึ่งสำคัญยิ่ง ต่อมนุษย์ทุกคน เพราะว่า

๑.เล็กจริง พิษร้ายเหลือ

ข้อ ๒ “ เพราะเราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆอย่าง ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา ผู้นั้นเป็นคนดีรอบคอบแล้ว และสามารถบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย” ข้อ ๕ “ ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆ และอวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ” ยากอบชี้ให้เห็นว่า ลิ้นอวัยวะเล็กๆนี้แหละถ้าใครก็ตามสามารถควบคุมไม่ให้มันทำผิดพลาดได้ คนนั้นจะบังคับตัวเองได้ทั้งหมด ข้อ ๕ ยากอบบอกว่า ลิ้น เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่ชอบอวดอ้างสิ่งใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ชอบโม้ โอ้อวด ชอบให้สัญญา ภาพนี้ฉันมักจะคิดถึง นักการเมืองตอนหาเสียง ผู้สมัครแทบทุกคนและทุกๆพรรคการเมืองจะใช้ปากเป็นอาวุธ ทั้งเชือดเชือน ใส่ร้ายป้ายสี กันเอง ทั้งให้สัญญากับประชาชนมากมาย จนฉันงงว่าใครพูดความจริงกันแน่!!!

ข้อ ๖ “และลิ้นนั้นเป็นไฟ ลิ้นเป็นโลกที่ไร้ธรรมในบรรดาอวัยวะของเรา เป็นเหตุให้ทั้งกายมลทิน ไปทำให้วัฏฏะแห่งชีวิตเผาไหม้ และมันเองก็ติดไฟโดยนรก” ยากอบชี้ให้เห็นความร้ายกาจของลิ้น ซึ่งเปรียบกับไฟและมันเผาผลาญทำลายทุกๆสิ่งที่มันเข้าใกล้ งูพิษมันใช้เขี้ยวกัดเพื่อฝังพิษ แต่ลิ้นมนุษย์ร้ายดุจยาพิษ เช่นแช่งด่า ผู้อื่น คือทำให้คนอื่นเสียใจแล้วรู้สึกสะใจ หรือลิ้นของบางคนทำให้คนฆ่าตัวตายมามากต่อมาก เช่น พ่อ แม่ ที่ด่าลูก ดูถูกลูกๆ แช่งด่าลูกจนทำให้ลูกๆฆ่าตัวตาย ทำนองเดียวกันวาจาของลูกๆทำให้พ่อ แม่ช้ำใจ จนบางคนถึงกับน้อยใจฆ่าตัวตาย นอกจากนั้น ก็เป็นคำด่า หรือตำหนิของครู/อาจารย์ที่ทำให้ศิษย์เสียใจ และบ่อยครั้งคำพูดของคู่รัก หรือสามี ภรรยาที่ด่า ตำหนิกัน จนทำให้อีกฝ่ายน้อยใจจนต้องปลิดชีวิตลาโลกไปมากต่อมากแล้ว

คริสตชนต้องตระหนักว่า การใช้วาจาหรือลิ้นไม่ถูกต้องพระเจ้าทรงเกลียดชังมาก กษัตริย์ ซาโลมอนได้กล่าวไว้ในหนังสือสุภาษิต บทที่ ๖ ว่าสิ่งที่พระเจ้าทรงเกลียด หรือน่าเกลียดน่าชัง เกี่ยวกับ “ลิ้น” ก็ คือ (๑ ) ลิ้นมุสา ซึ่งทำลายทั้งตัวเอง และคนอื่น ในหนังสือวิวรณ์ กล่าวถึงคนที่ต้องอยู่ในบึงไฟ มีคนมุสา รวมอยู่ด้วย ( วิวรณ์ ๒๑.๘ ) ( ๒ ) พยานเท็จ ซึ่งเป็นการทำลายผู้อื่น ด้วยวาจาที่มุสาสร้างหลักฐานเท็จ ( ๓ ) ผู้หว่านความแตกร้าว เป็นการทำลายความสงบของคนหมู่มาก หรือพูดได้ว่าทำลายสังคม

ในหนังสือสุภาษิต อีกหลายบท กล่าวถึงการใช้ลิ้นพูดไม่ดี พูดมุสา ลักษณะของคำพูดไม่ดี เช่นคนโง่พูดเขาจะนำเสนอความจริงแบบผิดๆ ด้วยการกล่าวเกินจริง หรือคำไม่ดีอาจจะมีความจริงในแง่ข้อเท็จจริง แต่พูดในเวลาที่ไม่เหมาะสม หรือด้วยความตั้งใจที่ประสงค์ร้าย นอกจากนี้ก็คือคนที่ใช้ลิ้นในการเยาะเย้ย หรือดูหมิ่น เพราะลิ้นที่ชอบเยาะเย้ย ก็จะใช้คำพูดทำร้ายคนอื่น ในสุภาษิตก็เตือนว่า “คำพูดที่ไม่ดี”จะทำลายความสัมพันธ์เพราะก่อให้เกิดความแตกแยก ลิ้นมุสา นำเสนอความจริงแบบผิดๆและหลอกหลวง ในสุภาษิต ๑๔ กล่าวถึงความรุนแรงของคำมุสาในศาล เช่น “พยานที่ซื่อสัตย์ไม่มุสา แต่พยานเท็จหายใจเป็นคำมุสาออกมา” (สภษ.๑๔.๕ ) และ “พยานซื่อตรงช่วยชีวิตให้รอด แต่ผู้ที่เปล่งคำมุสาขายคน” (ข้อ ๒๕ )

มีเรื่องเล่าถึงสตรีนางหนึ่ง ที่เธอชอบนินทาใส่ร้ายป้ายสี มีความสามารถปั้นเรื่องต่างๆเพื่อนินทา ผู้อื่น แล้วตัวเองได้ความสะใจที่เห็นคนอื่นเจ็บปวด ท้อแท้ สิ้นหวัง...วันหนึ่งนางได้ขอคำปรึกษากับบาทหลวงเพราะอยากเลิกนิสัยนี้ พระสงฆ์ท่านนี้ได้บอกให้นางนำหมอนใบหนึ่งมา และให้ไปที่ยอดเขา พร้อมกับฉีกหมอนออก ปล่อยให้นุ่นนั้นลอยไป หลังจากนั้นขอให้เธอ เก็บนุ่นที่ลอยไปกลับไปยัดที่หมอนดังเดิม....สักพักใหญ่นางกลับมาหาคุณพ่อ พร้อมกับหมอนที่ว่างเปล่า สตรีนางนี้เล่าให้คุณพ่อฟังว่า เมื่อเธอปล่อยนุ่นลอยออกไปนั้น นุ่นกระจายไปทั่วทุกทิศ เธอจึงไม่สามารถเก็บมันมายัดกลับในหมอนได้อีก ...บาทหลวงจึงบอกเธอว่า นั่นแหละคือคำตอบ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอพูดจาว่าร้าย นินทาคนอื่น ข่าวนั้นก็จะแพร่กระจายออกไปจนยากที่จะนำคำพูดกลับคืน ดังนั้นผลร้ายของการนินทา จึงทำให้คนอื่นได้รับความเสียหาย และยากยิ่งที่ผู้นินทาจะแก้ข่าวได้
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ค. 30, 2005 8:52 pm

๒. ต้องฝึกฝนการใช้ลิ้น

เราคงจะยอมรับความจริงว่าการใช้ลิ้นพูดไม่ยาก แต่การจะพูดให้ได้เนื้อหาสาระค่อนข้างยากเหมือนกัน ใครก็ตามที่ชอบพูดโม้โอ้อวด พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้เราโอ้อวดเรื่องนี้ “..ให้ผู้อวดอวดในสิ่งนี้คือการที่เขาเข้าใจและรู้จักเรา ว่าเราคือพระเจ้า ทรงสำแดงความรักมั่นคง ความยุติธรรม และความชอบธรรมในโลก เพราะว่าเราพอใจในสิ่งเหล่านี้” ( เยเรมีย์ ๙.๒๔ ) นี่คือพระดำรัสของพระเจ้าที่มาถึงคริสตชนที่ชอบพูด ชอบอวดให้อวดเรื่องพระเจ้าและพระราชกิจในชีวิตของพวกเรา

“เพราะสัตว์เดียรัจฉานทุกชนิด ทั้งนก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ในทะเลเลี้ยงให้เชื่องได้ และมนุษย์ก็ได้เลี้ยงให้เชื่องแล้ว...แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งที่ชั่วอยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย” (ยากอบ ๓.๗-๘ )

เมื่อยากอบพูดถึงสัตว์ว่าสามารถฝึกฝนได้ ฉันคิดถึงปัญญาของสัตว์ที่พระเจ้าทรงสร้างทำให้พวกมันปรับตัวในการดำรงชีวิต เช่น “มีสี่สิ่งในแผ่นดินโลกที่เล็กเหลือเกิน แต่มีปัญญามากเหลือล้น มด เป็นประชาการที่ไม่แข็งแรง แต่มันยังเตรียมอาหารของมันไว้ในฤดูแล้ง ตัวกระจกผา เป็นประชากรที่ไม่มีกำลัง แต่มันยังสร้างบ้านของมันในซอกหิน ตั๊กแตน ไม่มีราชา แต่มันยังเดินขบวนเป็นแถว ตุ๊กแกนั้น เจ้าเอามือจับได้ แต่มันยังอยู่ในพระราชวัง” (สุภาษิต ๓๐.๒๔-๒๘)

ยากอบกล่าวว่า สัตว์เดียรัจฉานทุกชนิดฝึกฝนได้ และเลี้ยงให้เชื่องได้ ผู้อ่านคงพอจะมีภาพของสัตว์ต่างๆที่มนุษย์นำมาเลี้ยงมาฝึก เช่นลิงซนๆ มนุษย์นำมาฝึกฝน ใช้งานเก็บมะพร้าว เล่นละคร ขี่จักรยาน สุนัข สุนัขเป็นสัตว์คู่ทุกข์ คู่ยากของมนุษย์ ในประเทศไทยมีโรงเรียนฝึกสุนัขหลายแห่ง สนนราคาค่าเล่าเรียนค่อนข้างแพงทีเดียว ฉันเคยไปเยี่ยมชมโรงเรียนฝึกสุนัข และได้คุยกับครูฝึกสุนัข ถึงวิธีการอบรมนักเรียนของเขา ครูเล่าว่า ขั้นตอนแรกของการฝึก คือ เขาต้อง ฝึกการฟังให้สุนัขก่อน คือฟังคำสั่งง่ายๆของครู เช่น ลุก นั่ง นอน หมอบ ฯลฯ เมื่อฟังคำสั่งคล่องแล้ว จึงเพิ่มบทเรียนให้ ...สุนัขได้ช่วยประโยชน์ ทางราชการทหาร ตำรวจ เช่นตรวจค้นยาเสพติด ค้นหาอาวุธ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ช่วยคนตาบอด ช่วยเฝ้าบ้าน และเป็นเพื่อนมนุษย์ เป็นต้น

...ช้าง ประเทศไทยมีชื่อเสียงเรื่องช้าง ซึ่งมีปางช้างมากมาย มีโรงเรียนฝึกช้าง ช้างใช้ลากซุง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่รถบรรทุกเข้าไม่ถึง บางทีก็น่าเวทนาที่ช้างบางเชือกขณะที่ทำงานในป่า ก็โดนระเบิดที่มนุษย์วางดักไว้ ปัจจุบันช้างจำนวนมาก ถูกฝึกเพื่อการบันเทิง เช่นในสถานท่องเที่ยว จะมีการแสดงโชว์ช้าง เช่น ใช้ ช้างทำศึก แห่ขันหมาก แห่นาค เล่นบอล เต้นรำ ว่ายน้ำ ชักคะเย่อ เล่นดนตรี เล่นเกมต่างๆ หรือกระทั่งนวด (บางตัวก็ทะลึ่ง!!!)

นกพิราบ อันที่จริงนกพิราบเป็นเครื่องหมายของพระจิต และสันติภาพ คนได้ฝึกให้ส่งข่าว หรือปัจจุบันมีการฝึกเพื่อบินแข่งขันกันเป็นต้น นอกจากนี้มีสัตว์อีกมากมาย หลากหลายชนิดที่มนุษย์สามารถฝึกฝน และสื่อสารกับพวกมันได้

ข้อที่๘บอกว่าลิ้นเลี้ยงไม่เชื่อง ชั่วร้าย ไม่มีใครสามารถบังคับมันได้ ลิ้นกระทำแต่สิ่งที่ชั่วเต็มด้วยยาพิษ พิจารณาตามท่านยากอบแล้วไม่มีใครน่าคบเลย “เราทั้งหลายสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และด้วยลิ้นนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์.....คำสรรเสริญและแช่งด่าออกมาจากปากอันเดียวกัน...” (ยากอบ ๓.๙-๑๐ ) ยากอบย้ำเตือนสติกับพวกเราว่า ลิ้น เดียวที่เรามีอยู่นี้ เราใช้ทั้งสรรเสริญพระเจ้าและพูดจาหยาบคาย ติฉินนินทาให้ร้ายเพื่อนมนุษย์

ดูตัวอย่างประกาศกอิสยาห์ เมื่อเริ่มรับกระแสเรียกของพระเจ้าเพื่อเป็นประกาศก สิ่งแรกที่ท่านทำคือ สารภาพบาปโดย สำนึกตัวเองว่าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด และอยู่ในหมู่ชนชาติริมฝีปากไม่สะอาด ( อิสยาห์ ๖.๕ ) พระเจ้าทรงให้เซราฟิม ใช้คีมถ่านเพลิงจากแท่นบูชาถูกต้องปาก เพื่อลบกรรมชั่วและมลทินบาป แล้วอิสยาห์ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า ที่ทรงเรียกเขาให้รับใช้พระองค์ ( ดูอิสยาห์ ๖.๖-๙ )

ลิ้น เล็กๆของเราแต่ละคน ก็เป็นตัวแทนของสิ่งที่ซ่อนภายในตัวเรา ไม่ว่า ความคิด ทัศนคติ
ความเชื่อ ความหวังใจ ในพระวรสารลูกา ๖.๔๕ ยืนยันว่า “คนดีย่อมก็ย่อมเอาของดีออกจากคลังดีแห่งใจของตน และคนชั่วก็ย่อมเอาของชั่วจากคลังชั่วแห่งใจของตน ด้วยใจเต็มไปด้วยอะไรปากก็พูดออกมาอย่างนั้น” ฉันจึงคิดว่า การที่เราจะให้ลิ้นเราสื่อสารออกมาอย่างไร เราต้องฝึกที่ใจ ที่สมองก่อน ตราบใดที่มีใจอคติ คิดแต่สิ่งร้ายๆ ความคิดนั้นถูกส่งไปที่สมองสั่งให้ลิ้นพูดออกเป็นวาจา ดังนั้นคำพูดที่เปล่งออกมา ก็ไม่น่าฟัง หรือทำร้าย ทำลายผู้อื่นไปเลย ด้านนักจิตวิทยา บอกว่า ต้องหัดคิดในแง่บวก เพราะการคิดในแง่บวกจะสามารถเข้าใจคนอื่น สามารถเสริมสร้างผู้อื่น เท่าที่กล่าวมาดูเหมือนเป็นเรื่องยากมาก สำหรับคนที่ชอบพูด พูดไม่คิด หรือพูดตามอารมณ์ตัวเอง
ความจริงแล้วคริสตชนไม่ได้อยู่คนเดียว พระเยซูคริสต์ทรงเข้าใจถึงความอ่อนของมนุษย์ ดังนั้นก่อนจะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์ทรงสัญญาว่าจะส่งพระผู้ช่วยแก่เรานั่นคือพระจิตเจ้า อัครทูตเปาโลเตือนคริสตชนว่าในการดำเนินชีวิตต้องสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า เป็นเครื่องป้องกันตัว เพราะว่า เราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนัง และเลือด แต่เรากำลังต่อสู้กับเทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดของโลกนี้ ต่อสู้กับจิตชั่ว เปาโลเตือนให้ทุกคนมั่นคง เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก เอาข่าวดีเป็นรองเท้า เอาความเชื่อเป็นโล่ เอาความรอดเป็นหมวกเหล็ก และถือพระแสงของพระจิตคือพระวาจา และ เป็นนักภาวนา ( เอเฟซัส ๕.๑๐-๑๘ )

ดับเบิลยู แบร์รี มิลเลอร์ เขียนในหนังสือ “สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่ทำลายสวนองุ่น” ตอนออกค้นหาจิ้งจอกสีเทา เขาเห็นว่า การใช้คำพูดหรือการไม่พูดของเราเป็นสีเทาและสีเทาในชีวิตมักจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง “ ...คำดูหมิ่น คำสาปแช่ง คำที่ไร้เมตตา คำวิพากวิจารณ์ คำเหล่านี้จะเปรียบเสมือนรอยเปื้อนสกปรกที่ติดอยู่บนกำแพงที่ สวยงามในชีวิตของเรา” เมื่อคริสตชนควบคุมลิ้นไม่ได้คำพูดเป็นสีเทา เท่ากับเขาได้ทำลายพยานชีวิต ...นักปราชญ์กล่าวว่า การที่เราจะพูดเรื่องคนอื่นต้องตรวจสอบ สามประการคือ (๑) เป็นความจริงไหม (๒) มีความเมตตาไหม และ (๓ )เป็นสิ่งจำเป็นไหม

หนทางเดียวในการกำจัดสีเทาหรือความบาปจากการใช้ลิ้นคือ การยอมจำนนถวายชีวิตให้พระเยซูคริสต์เจ้าครอบครอง จิตวิญญาณเราเป็นเช่นไร คำพูดที่เปล่งออกมาก็เป็นเช่นนั้น พระคริสต์เท่านั้นทรงสามรถเปลี่ยนแปลงชีวิตภายในของเราได้

“ลิ้นที่สุภาพเป็นต้นไม้แห่งชีวิต แต่ลิ้นตลบตะแลงทำน้ำใจให้แตกสลาย” (สภษ.๑๕.๔)

“ถ้อยคำแช่มชื่นเหมือนรวงผึ้ง เป็นความหวานแก่วิญญาณจิต
และเป็นอนามัยแก่ร่างกาย” ( สภษ.๑๖.๒๔ )


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หมายเหตุ บทความนี้

( ตีพิมพ์ อิสระรายปักษ์ ฉบับที่ ....เดือนเมษายน ๒๐๐๕ )

และที่

http://www.issara.com/article/small.html
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร พ.ค. 31, 2005 6:06 am

เจ๊ จิง หา รูปปาก หรือลิ้นมาแปะด้วย ดิ

เจ๊ พีพีหาไม่เป็นหรอก ;D *lick แต่ไม่เอาลิ้นพี่ลิงนะฮะ ( น่าเกลียดมักๆๆ )
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

อังคาร พ.ค. 31, 2005 9:55 am

อืม.....อ่านไปพิจารณาตัวเองไปด้วย ขอบคุณมากนะคะกับบทความดีๆ โอยต่อไปนี้ต้องระวังลิ้นตัวเองให้มาก :-X
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 31, 2005 4:44 pm

*thx ครับ พี่พีพี
spirit

พุธ มิ.ย. 01, 2005 11:17 am

มาอ่าน


อีสป เคยเล่าเป็นนิทานว่า

อวัยวะที่ดีที่สุดของมนุย์ก็คือลิ้น แต่อวัยวะเลวสุด ก็คือลิ้น เช่นกัน


อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
แต่ลมปากหวานหู มิรู้หาย
เจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลาย
เจ็บจนตายก็เพราะเหน็บให้เจ็บทรวง
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 01, 2005 7:03 pm

เจ๊ แกะหลง จ๋า นิทานคุณสป เวอร์ชั่นที่หนูฟังมา บอกว่า

อีสป เป็นต้นเครื่อง และตลกหลวง จักรพรรดิ ตรัสกับอีสปว่า เจ้าไปทำอาหารที่ดีที่สุดให้ข้า กินหน่อยดิ

อีสป ก็ถวายสตูลิ้นวัว ..............................วันต่อมา จักรพรรดิ รับสั่ง แก่อีสป ว่า เจ้าจงทำอาหารที่เลวที่สุดให้ข้ากินหน่อย ดิ อีสป ก็ถวายสตูลิ้นวัว อีก

จักรพรรดิ สงสัยว่า เอ่ อาหารดีที่สุด ก็สตูลิ้น เลวที่สุด ก็สตูลิ้น

ดังนั้น อีสป ทูลจักรพรรดิ อาหาร ที่ดีที่สุด เป็นลิ้น เพราะว่า ลิ้นนั้น พูด ดีทำให้คนชื่นใจ ได้รับประโยชน์ยิ่ง คนฟังสบายหู สบายใจ และในเวลาเดียวกัน ลิ้น ก็ร้ายกาจเหลือเกิน พูดให้คนอื่นเสียหาย เจ็บช้ำน้ำใจ คือเชือดเฉือน คนอื่น *ha
ภาพประจำตัวสมาชิก
St.Gerard
โพสต์: 179
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 11, 2005 10:47 am
ที่อยู่: Phrae
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 5:10 pm

มาอ่านด้วยคนครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 5:32 pm

ทั่น racket ไปไหนมาฮะ เพราะกลับมาถึง ตั้งหน้าดัน กระทู้เลยนิ ???
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ มิ.ย. 10, 2005 11:22 am

Jeab Agape เขียน:
ทั่น racket ไปไหนมาฮะ เพราะกลับมาถึง ตั้งหน้าดัน กระทู้เลยนิ ???
อืม...จริงด้วย กระทู้เก่าทั้งนั้นเลยอ่ะ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ม.ค. 27, 2006 4:49 am

ขอดันกระทู้นี้ มาให้พวกเรา หรือท่านที่ยังไม่เคยอ่านได้อ่านอีกครั้งค่ะ ;D
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ม.ค. 12, 2011 9:54 pm

เห็นด้วยค่ะ ลิ้นพูดให้คนเป็นก็ได้ พูดให้คนตายก็ได้ ลิ้นฆ่าคนได้
แต่สตูลลิ้นวัวกินอร่อย :s012: :s012: :s012:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ม.ค. 12, 2011 11:14 pm

สุภาษิต 15

ความดีเปรียบกับความชั่วร้าย

15:1 คำตอบอ่อนหวานทำให้ความโกรธเกรี้ยวหันไปเสีย แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ
15:2 ลิ้นของปราชญ์ใช้ความรู้อย่างถูกต้อง แต่ปากของคนโง่เทความโง่ออกมา
15:3 พระเนตรของพระเยโฮวาห์อยู่ในทุกแห่งหน ทรงเฝ้าดูคนชั่วและคนดี
15:4 ลิ้นที่สุภาพเป็นต้นไม้แห่งชีวิต แต่ลิ้นตลบตะแลงทำน้ำใจให้แตกสลาย
15:5 คนโง่ดูหมิ่นคำสั่งสอนของบิดาตน แต่ผู้ที่สนใจคำตักเตือนเป็นผู้หยั่งรู้
15:6 ในเรือนของคนชอบธรรมมีคลังทรัพย์มาก แต่ความลำบากตกอยู่กับรายได้ของคนชั่วร้าย
15:7 ริมฝีปากของปราชญ์กระจายความรู้ แต่ความคิดของคนโง่หาเป็นเช่นนั้นไม่
15:8 เครื่องสักการบูชาของคนชั่วร้ายเป็นที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์ แต่คำอธิษฐานของคนเที่ยงธรรมเป็นความปีติยินดีของพระองค์
15:9 ทางของคนชั่วร้ายเป็นที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์ แต่พระองค์ทรงรักผู้ที่ติดตามความชอบธรรม
15:10 ผู้ที่ทอดทิ้งทางดีนับว่าการทำโทษเป็นสิ่งที่หนักใจ บุคคลผู้เกลียดคำเตือนสติจะตายเปล่า
15:11 นรกและแดนพินาศก็ประจักษ์แจ้งอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ใจแห่งบุตรทั้งหลายของมนุษย์จะแจ้งเฉพาะพระองค์ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด
15:12 คนมักเยาะเย้ยไม่รักคนที่ตักเตือนเขา ทั้งเขาจะไม่ไปหาปราชญ์
15:13 ใจที่ร่าเริงกระทำให้สีหน้าแจ่มใส แต่โดยความเศร้าในใจดวงจิตก็แหลกสลายไป
15:14 ใจของบุคคลผู้มีความเข้าใจก็แสวงหาความรู้ แต่ปากของคนโง่กินความโง่เป็นอาหาร
15:15 ทุกๆวันของคนที่ทุกข์ใจก็ร้าย แต่คนที่มีใจร่าเริงมีการเลี้ยงต่อเนื่องกัน
15:16 มีทรัพย์น้อยแต่มีความยำเกรงพระเยโฮวาห์ ดีกว่ามีคลังทรัพย์ใหญ่ แต่มีความลำบากอยู่ด้วย
15:17 กินผักเป็นอาหารในที่ที่มีความรักก็ดีกว่ากินเนื้อวัวอ้วนพร้อมกับความเกลียดชังอยู่ด้วย
15:18 คนใจร้อนเร้าการวิวาท แต่บุคคลผู้โกรธช้าก็ระงับการชิงดี
15:19 ทางของคนเกียจคร้านเหมือนรั้วต้นไม้หนาม แต่วิถีของคนชอบธรรมเป็นทางหลวงราบเสมอ
15:20 บุตรชายที่ฉลาดกระทำให้บิดายินดี แต่คนโง่ดูหมิ่นมารดาของตน
15:21 ความโง่เป็นความชื่นบานแก่บุคคลผู้ไม่มีสติปัญญา แต่คนที่มีความเข้าใจจะดำเนินในความเที่ยงธรรม
15:22 ปราศจากการปรึกษาหารือ แผนงานก็ล้มเหลว แต่มีผู้แนะนำมากๆ แผนงานนั้นก็สำเร็จ
15:23 คำตอบจากปากที่เหมาะสมก็เป็นความชื่นบานแก่คน คำเดียวที่ถูกกาลเทศะก็ดีจริงๆ
15:24 ทางแห่งชีวิตนำคนฉลาดขึ้นไปสู่เบื้องบน เพื่อเขาจะได้หลีกหนีจากนรกเบื้องล่าง
15:25 พระเยโฮวาห์จะทรงรื้อเรือนของคนเย่อหยิ่ง แต่ให้ขอบเขตของหญิงม่ายคงอยู่
15:26 ความคิดทั้งหลายของคนชั่วร้ายเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์ แต่ถ้อยคำของคนบริสุทธิ์เป็นถ้อยคำที่พอพระทัย
15:27 บุคคลผู้ตะกละหากำไรก็กระทำความลำบากแก่ครัวเรือนของตน แต่บุคคลผู้เกลียดสินบนจะมีชีวิตอยู่
15:28 ใจของคนชอบธรรมรำพึงว่าจะตอบอย่างไร แต่ปากของคนชั่วร้ายเทสิ่งชั่วร้ายออก
15:29 พระเยโฮวาห์ทรงอยู่ห่างไกลจากคนชั่วร้าย แต่พระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานของคนชอบธรรม
15:30 สว่างของตาทำให้ใจเปรมปรีดิ์ และข่าวดีกระทำให้กระดูกสดชื่น
15:31 หูที่ฟังคำตักเตือนที่ให้ชีวิตจะอยู่ท่ามกลางปราชญ์
15:32 บุคคลผู้เพิกเฉยต่อคำสั่งสอนก็ดูหมิ่นจิตใจตนเอง แต่บุคคลผู้ฟังคำตักเตือนก็ได้ความเข้าใจ
15:33 ความยำเกรงพระเยโฮวาห์เป็นการสอนให้เกิดปัญญา และความถ่อมใจเดินอยู่ข้างหน้าเกียรติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ม.ค. 14, 2011 1:28 pm

สุภาษิตใช้สอนใจได้ทุกยุคสมัยเลยค่ะ ดีมากค่ะน้องเจี๊ยบ กุ๊กๆ :s023: :s023:
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 7:57 pm

มันยากจิงๆครับที่จะบังคับลิ้นเราให้พูดแต่เรื่องดีๆ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 30, 2012 8:11 am

เผื่อใครอยากศึกษาถึงการใช้วาจา หรือการพูดนั่นเองค่ะ

ขอให้มีความสุขปีใหม่ 2013 นะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ม.ค. 30, 2013 5:09 pm

:s015: :s015:
ตอบกลับโพส