หนังสือของเอลี+The Book of Eli+เมื่อโลกไร้ไบเบิ้ล
เรื่องย่อ
เรื่องราวของอีไล (เดนเซล วอชิงตัน) ชายผู้ท่องอเมริกาอย่างโดดเดี่ยวเพื่อปกป้องหนังสือเล่มหนึ่งที่ว่ากันว่าสามารถฟื้นฟูโลกที่ล่มสลายจากสงครามนิวเคลียร์ไปแล้วให้กลับคืนมาได้ โดยมีคาร์เนจี้ (แกรี่ โอลด์แมน) ซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองแห่งหนึ่งหวังอยากได้มันไว้
http://www.majorcineplex.com/movie_deta ... 5&vid=2864
เรื่องราวของอีไล (เดนเซล วอชิงตัน) ชายผู้ท่องอเมริกาอย่างโดดเดี่ยวเพื่อปกป้องหนังสือเล่มหนึ่งที่ว่ากันว่าสามารถฟื้นฟูโลกที่ล่มสลายจากสงครามนิวเคลียร์ไปแล้วให้กลับคืนมาได้ โดยมีคาร์เนจี้ (แกรี่ โอลด์แมน) ซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองแห่งหนึ่งหวังอยากได้มันไว้
http://www.majorcineplex.com/movie_deta ... 5&vid=2864
ต่อไปนี้มีการสปอยล์เนื้อหาบางส่วน ในการรีวิว แต่ไม่ได้เฉลยอะไรมากมาย สามารถอ่านก่อนชมได้
ด้วยความที่ชื่อของพระเอก ย่อมาจากชื่อประกาศก เอลียาห์ ผมจึงออกเสียงแบบไม่อิงฝรั่ง โดยเรียกพระเอกว่าเอลี หนังเรื่องนี้ เป็นหนังบู๊เลือดสาดเถื่อนดิบพอสมควร จึงได้เรท R ไปในต่างประเทศ จุดดีเด่นของหนังเรื่องนี้คือ การมีคติสอนใจดีๆปูอยู่เป็นระยะ และการเล่าเรื่องนั้น เล่าแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ มีบู๊แทรกพอเป็นกระษัย (แต่บู๊ทีตัดแขนตัดขากันเลย)
โทนหนังพยายามคุมโทนให้หม่นหมองเป็นสีซีเปีย น้ำตาลๆ แห้งๆ เพื่อให้ได้บรรยากาศของโลกหลังสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ที่คนรุ่นหลังไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ เพราะโลกมันไม่เหลือความศิวิไลใดๆเลย คนต้องฆ่ากัน แย่งชิงข้าวของกัน เหมือนกับไปยุคหินใหม่ หนังเรื่องนี้ จึงเหมาะกับคนที่ชอบด่าคนโบราณที่ทำอะไรดูเลวร้ายในสายตาคนยุคเรา เพราะในโลกที่ไร้อารยธรรม และความเจริญ ทุกคนต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะฆ่า ชิงปล้น ข่มขืน ผู้แข็งแรงเท่านั้นที่อยู่ได้ เราจะเข้าใจได้เลยว่า ไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา การต่อสู้เพื่อป้องกันตัว กลายเป็นความชอบธรรมจริงๆ และโดยเฉพาะ ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อแบบเบ็ดเสร็จ ถ้าไม่มีผู้ชายคุ้มครองล่ะก็ ตายลูกเดียว
มันกลับไปสู่ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่ทำให้เราสลดหดหู่ และ กลัว จริงๆว่า ถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่3 มันคงมีสภาพแบบนี้ ทำให้เราอยากจะรักษาสันติภาพเท่าที่มีนี้ให้ยาวนานตลอดไปขึ้นมา และโดยรวม โทนของหนังจึงออกมา อึดอัด เกือบทั้งเรื่อง และ พลอยน่าเบื่อเข้าไปอีกด้วยสีน้ำตาลสีเดียวตลอดเรื่อง จึงทำให้หลายๆคนบ่นว่าไม่สนุก หรือเกือบหลับ และโดยเฉพาะคนที่คาดหวังฉากบู๊มากๆ มันกลับมีไม่มาก เราจึงอาจจะเจอรีวิวตามเวบไทยต่างๆที่ออกแนวบ่นว่า ดูไม่รู้เรื่องบ้าง ไม่สนุกบ้าง แต่ที่น่าสนใจ หลายๆคนมักพูดว่า เราไม่ใช่คริสต์ เลยดูไม่ค่้อยเข้าใจ
ความจริงรอบหนังที่ผมไปดูมา คนดูหลายๆคนเดินออกจากโรงในอาการดังกล่าว คือดูมึนๆ และบ่นๆทำนองว่าไม่ค่อยเข้าใจ แต่ในฐานะที่ผมเป็นคริสตชน ที่ค่อนข้างใส่ใจในศาสนาของตน กลับมีความซึ้งในระดับหนึ่ง และพอเข้าใจว่าทำไมคนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ เพราะหนังเหมือนคุยกับคริสตชนมากกว่าคนทั่วไป และด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้
1.คริสตชนเรา ถือว่าไบเบิ้ลสำคัญมาก เราควรอ่านทุกวัน ดังนั้นเมื่อวันหนึ่ง หนังตั้งคำถามว่า ถ้าคุณไม่มีไบเบิ้ลจะอ่าน หรือถ้าอยากจะัอ่านก็อ่านไม่ออกอยู่ดี จะเป็นอย่างไร ตัวอย่างที่ ตัวพระเอก อ่านไบเบิ้ลทุกวัน ในขณะที่คนทั้งโลกไม่มีโอกาสอ่านเลย เราคริสตชนที่เคยได้รับคำหนุนใจจากพระคัมภีร์จะซึ้งขึ้นมาทีเดียว ซึ่งในหลายๆศาสนาที่ไม่ได้เน้นว่าศาสนิกต้องอ่านคัมภีร์ในศาสนาของตน และยิ่งในชีวิตตนไม่เคยอ่านคัมภีร์ศาสนาตัวเองเลย ก็คงไม่อินกับความรู้สึกนี้
2.ในหนังนั้นการพูดประโยคในไบเบิ้ลแต่ละประโยคเหมาะเจาะ และมีความหมาย ชนิดที่เรารู้สึกว่าหนุนใจตัวละครเพียงไร หรือในสถานการณ์นั้นๆสื่ออะไร หรือแม้แต่ตัวละคร เอาคำสอนตอนไหนของไบเบิ้ลมาใช้ในสถานการณ์นั้นๆบ้าง และทั้งหมดนี้คนต่างศาสนาคงไม่อินด้วย
3.เมื่อไคลแมกซ์ของหนังอยู่ที่การนำส่งไบเบิ้ล และลักษณะของพระเอก เหมือนประกาศกในพระคัมภีร์มาก แต่ประกาศกในพระคัมภีร์ ไม่ใช่แนวพระเอกตลาดๆ ประกาศกในพระคัมภีร์ คือผู้รับสาร และส่งต่อสารนั้นต่อประชากร ตามพระบัญชาของพระเจ้า ดังนั้น รูปแบบของ การรับสารจากพระเจ้า การได้ยินเสียงภายใน หรืออัศจรรย์เนียนๆ ที่เคยเกิดกับประกาศกมากมายในพระคัมภีร์ แล้วมาเกิดกับพระเอก จึงถูกเข้าใจและซาบซึ้งได้เฉพาะคริสตชนที่รู้เรื่องราวในพระธรรมเดิม แต่กับคนต่างศาสนา คงจะรู้สึกแค่ว่า ทำไมพระเอกมัน เมพขริงๆ เช่นนี้
ข้อคิดเด็ดๆ
แม้หนังจะมีปัญหาเรื่องความมันตามแนวตลาดทั่วไป แต่ในเรื่องแง่คิดล่ะก็ ต้องถือว่าทำได้ดีมากๆ ผมจะขอไล่ฉากหลายๆฉากที่ได้อะไรดีๆจากหนังเรื่องนี้ดังนี้
1.โลกนี้มันห่วยเพราะความบาปของมนุษย์
ฉากที่พระเอกยก บทปฐมกาลมาพูดใส่พวกผู้ร้าย
"แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะตัวเจ้า
เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความ ทุกข์ลำบากจนตลอดชีวิต
แผ่นดินจะให้ต้นไม้และพืชที่มีหนามแก่เจ้า
และเจ้าจะกินพืชต่างๆของทุ่งนา
เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า
จนเจ้ากลับเป็นดินไป
เพราะเราสร้างเจ้ามาจากดิน
เจ้าเป็นผงคลีดิน
และจะต้องกลับเป็นผงคลีดินดังเดิม”
คนไม่ใช่คริสต์คงนั่นฟังงงๆ แต่ผมรู้สึกโดนอย่างแรง เพราะโลกมันแย่เพราะมนุษย์ทำกันเองทั้งนั้น ไม่ใช่พระเจ้าเลย แต่ทำไมชอบโทษพระเจ้า
2.ไบเบิ้ลนั้น สามารถถูกเอาไปใช้ในทางที่ถูกหรือผิดก็ได้ขึ้นกับคน
ฝ่ายตัวร้ายต้องการใช้ คำหนุนใจ และการปลอบประโลมของพระวาจาในไบเบิ้ลมาครอบงำคน เพื่อปกครองโลก โดยพูดว่า มันเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งประวัติศาสตร์ก็ได้เคยมีบันทึกของคนที่เอาไบเบิ้ลไปบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ตัวเองอยู่เสมอ แม้ในปัจจุบันก็ยังมีคนแบบนี้อยู่
3.ศาสนาเป็นเหตุแห่งสงคราม จึงไม่ควรมีศาสนาหรือ
หนังแอบตบหน้าคนบางคนแบบเนียนๆ โดยเฉพาะคนจำพวกที่ชอบอ้างว่า ศาสนาทำให้เกิดสงครามศาสนาจึงไม่นับถือศาสนาใดเลย หนังสื่อว่า หลังสงคราม คนจำพวกนี้ เผาทำลายไยเบิ้ลทิ้งทั้งหมด แต่โลกก็ยังคงเฮงซวย และอาจจะเฮงซวยแบบสุดๆยิ่งกว่าตอนมีศาสนาอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นสาเหตุไม่ใช่ศาสนา แต่เป็นสันดานคนต่างหาก ที่กระหายสงคราม เพราะต่อให้ไม่มีเรื่องศาสนา มันก็สามารถฆ่ากันเพราะเรื่องงี่เง่าสารพัดได้
4.ไม่ใช่ทุกคำในไบเบิ้ลต้องทำตามตัวอักษรโดยไม่ดุสถานการณ์
พระเอกคือคนที่อ่านไบเบิ้ลชนิดทุกหน้าจำได้หมดตั้งแต่พระธรรมเก่ายันใหม่ แต่พระเอกนั้น ต้องล่าสัตว์ที่มีมลทินกินตลอด ตั้งแต่ แมว นกแร้ง ฯลฯ อันสะท้ิอนว่า ในสถานการณ์ที่คุณไม่มีอะไรจะกิน คุณต้องกิน แต่พระเอกยังไง ก็ไม่ถึงขั้นกินเนื้อคน แบบที่ในสมัยนั้นหลายๆคน กลายเป็นแก๊งค์ที่ล่าคนมากิน เพราะไม่มีอะไรจะกิน
5.อ่านไบเบิ้ลแต่ยังไม่ได้ทำตามที่ไบเบิ้ลสอน
พระเอกยอมรับว่า เขาอ่านไบเบิ้ลมา30ปีติดต่อกันทุกวันจนจำได้หมดทั้งเล่ม แต่เพิ่งได้เคยทำตามที่ไบเบิ้ลสอนก็ตอนที่สละไบเบิ้ลและชีวิตตัวเองเพื่อช่วยนางเอก
6.ศรัทธานำพาชีวิต
เมื่อสถานการณ์รอบตัวมีแต่ความสิ้นหวัง และหมดสิ้นทุกอย่าง ศรัทธาเท่านั้นที่พาคุณผ่านทุกอย่างได้ แม้แต่คนตาบอดก็มองเห็นได้ ถ้ามีศรัทธา คนมีศรัทธาเท่านั้นที่สามารถฉีกขนบทำอะไรๆที่ยิ่งใหญ่เกินตัวได้ เพราะเมื่อมีศรัทธา ก็มีหวัง
7.การพักผ่อนที่แท้จริง ไม่ใช่การได้กินดีอยู่ดี แต่เป็นการพักผ่อนในพระเจ้า
8.ขอบคุณพระเจ้าทุกกรณี
9.พระเจ้าทรงเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลับเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่รักพระองค์
10.ถ้าคุณไม่อาบน้ำ มันจะเหม็นไปไกลมาก : emo036 :
11. ฯลฯ
ดังนั้นโดยสรุป ถ้าใครสนใจไปดู ก็สามารถไปดูได้ ใครจะรอดูแผ่นก็ไม่เสียหาย แต่หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่สอนในแง่ที่ดีหลายๆอย่าง และแม้จะไม่ได้เสริมศรัทธา หรือสนุกสนานมันส์สะเด็ดมากมาย แต่คริสตชนที่รู้พระคัมภีร์ คงดูได้สนุก และซาบซึ้งกว่าคนอื่นแน่นนอน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
แม้หนังจะมีปัญหาเรื่องความมันตามแนวตลาดทั่วไป แต่ในเรื่องแง่คิดล่ะก็ ต้องถือว่าทำได้ดีมากๆ ผมจะขอไล่ฉากหลายๆฉากที่ได้อะไรดีๆจากหนังเรื่องนี้ดังนี้
1.โลกนี้มันห่วยเพราะความบาปของมนุษย์
ฉากที่พระเอกยก บทปฐมกาลมาพูดใส่พวกผู้ร้าย
"แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะตัวเจ้า
เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความ ทุกข์ลำบากจนตลอดชีวิต
แผ่นดินจะให้ต้นไม้และพืชที่มีหนามแก่เจ้า
และเจ้าจะกินพืชต่างๆของทุ่งนา
เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า
จนเจ้ากลับเป็นดินไป
เพราะเราสร้างเจ้ามาจากดิน
เจ้าเป็นผงคลีดิน
และจะต้องกลับเป็นผงคลีดินดังเดิม”
คนไม่ใช่คริสต์คงนั่นฟังงงๆ แต่ผมรู้สึกโดนอย่างแรง เพราะโลกมันแย่เพราะมนุษย์ทำกันเองทั้งนั้น ไม่ใช่พระเจ้าเลย แต่ทำไมชอบโทษพระเจ้า
2.ไบเบิ้ลนั้น สามารถถูกเอาไปใช้ในทางที่ถูกหรือผิดก็ได้ขึ้นกับคน
ฝ่ายตัวร้ายต้องการใช้ คำหนุนใจ และการปลอบประโลมของพระวาจาในไบเบิ้ลมาครอบงำคน เพื่อปกครองโลก โดยพูดว่า มันเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งประวัติศาสตร์ก็ได้เคยมีบันทึกของคนที่เอาไบเบิ้ลไปบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ตัวเองอยู่เสมอ แม้ในปัจจุบันก็ยังมีคนแบบนี้อยู่
3.ศาสนาเป็นเหตุแห่งสงคราม จึงไม่ควรมีศาสนาหรือ
หนังแอบตบหน้าคนบางคนแบบเนียนๆ โดยเฉพาะคนจำพวกที่ชอบอ้างว่า ศาสนาทำให้เกิดสงครามศาสนาจึงไม่นับถือศาสนาใดเลย หนังสื่อว่า หลังสงคราม คนจำพวกนี้ เผาทำลายไยเบิ้ลทิ้งทั้งหมด แต่โลกก็ยังคงเฮงซวย และอาจจะเฮงซวยแบบสุดๆยิ่งกว่าตอนมีศาสนาอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นสาเหตุไม่ใช่ศาสนา แต่เป็นสันดานคนต่างหาก ที่กระหายสงคราม เพราะต่อให้ไม่มีเรื่องศาสนา มันก็สามารถฆ่ากันเพราะเรื่องงี่เง่าสารพัดได้
4.ไม่ใช่ทุกคำในไบเบิ้ลต้องทำตามตัวอักษรโดยไม่ดุสถานการณ์
พระเอกคือคนที่อ่านไบเบิ้ลชนิดทุกหน้าจำได้หมดตั้งแต่พระธรรมเก่ายันใหม่ แต่พระเอกนั้น ต้องล่าสัตว์ที่มีมลทินกินตลอด ตั้งแต่ แมว นกแร้ง ฯลฯ อันสะท้ิอนว่า ในสถานการณ์ที่คุณไม่มีอะไรจะกิน คุณต้องกิน แต่พระเอกยังไง ก็ไม่ถึงขั้นกินเนื้อคน แบบที่ในสมัยนั้นหลายๆคน กลายเป็นแก๊งค์ที่ล่าคนมากิน เพราะไม่มีอะไรจะกิน
5.อ่านไบเบิ้ลแต่ยังไม่ได้ทำตามที่ไบเบิ้ลสอน
พระเอกยอมรับว่า เขาอ่านไบเบิ้ลมา30ปีติดต่อกันทุกวันจนจำได้หมดทั้งเล่ม แต่เพิ่งได้เคยทำตามที่ไบเบิ้ลสอนก็ตอนที่สละไบเบิ้ลและชีวิตตัวเองเพื่อช่วยนางเอก
6.ศรัทธานำพาชีวิต
เมื่อสถานการณ์รอบตัวมีแต่ความสิ้นหวัง และหมดสิ้นทุกอย่าง ศรัทธาเท่านั้นที่พาคุณผ่านทุกอย่างได้ แม้แต่คนตาบอดก็มองเห็นได้ ถ้ามีศรัทธา คนมีศรัทธาเท่านั้นที่สามารถฉีกขนบทำอะไรๆที่ยิ่งใหญ่เกินตัวได้ เพราะเมื่อมีศรัทธา ก็มีหวัง
7.การพักผ่อนที่แท้จริง ไม่ใช่การได้กินดีอยู่ดี แต่เป็นการพักผ่อนในพระเจ้า
8.ขอบคุณพระเจ้าทุกกรณี
9.พระเจ้าทรงเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลับเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่รักพระองค์
10.ถ้าคุณไม่อาบน้ำ มันจะเหม็นไปไกลมาก : emo036 :
11. ฯลฯ
ดังนั้นโดยสรุป ถ้าใครสนใจไปดู ก็สามารถไปดูได้ ใครจะรอดูแผ่นก็ไม่เสียหาย แต่หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่สอนในแง่ที่ดีหลายๆอย่าง และแม้จะไม่ได้เสริมศรัทธา หรือสนุกสนานมันส์สะเด็ดมากมาย แต่คริสตชนที่รู้พระคัมภีร์ คงดูได้สนุก และซาบซึ้งกว่าคนอื่นแน่นนอน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2010 1:08 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ปล.
เสริม....
12. พระเอก อธิษฐานก่อนกินอาหารด้วยล่ะจ้า
เสริม....
12. พระเอก อธิษฐานก่อนกินอาหารด้วยล่ะจ้า
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ตอนออกจากโรงหนัง ก็เดินขำมาตลอดทาง
เพราะปฏิกริยาของคนดูที่เดินออกมาจากโรงหนัง
มันสัมผัสได้ว่า ทุกคน เดินออกมาอย่างมึน ๆ และ เงียบมาก ๆ
เหมือนคนดูจะถามตัวเองอยู่ว่า กรูดูอะไรไปฟ่ะ 555555
ได้ยินบางคนพูดว่า... มันเป็นยังไงเหรอ? มันคืออะไรเหรอ?
รวมถึงการวิจารณ์ฉากบางฉาก ที่..ไม่ต้องวิจารณ์ก็ได้ เช่น ฉากแมว... ทำไมแมวมาอยู่ในป่าฟ่ะ.... 555
ฟังแล้วเหมือนกับว่า เขาไม่รู้จะพูดถึงอะไรในหนังเรื่องนี้ เพราะดูแล้วมึน ๆ
แต่เราดู เราเข้าใจ และ เชื่อว่า คริสตชนที่สนใจศาสนาจริง ๆ จะget เหมือนกัน
ว่าทำไม คน ๆ หนึ่งถึงได้ รัก หวงแหน และ รักษาพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่เหลือเล่มเดียวในโลกถึงขนาดนั้น
แต่คนต่างศาสนาจะคิดว่า ทำไมต้องอยากได้ไบเบิ้ลขนาดนั้นฟ่ะ
อิอิอิ ก็จบด้วยอารมณ์ ขำ ๆ ค่ะ
เพราะปฏิกริยาของคนดูที่เดินออกมาจากโรงหนัง
มันสัมผัสได้ว่า ทุกคน เดินออกมาอย่างมึน ๆ และ เงียบมาก ๆ
เหมือนคนดูจะถามตัวเองอยู่ว่า กรูดูอะไรไปฟ่ะ 555555
ได้ยินบางคนพูดว่า... มันเป็นยังไงเหรอ? มันคืออะไรเหรอ?
รวมถึงการวิจารณ์ฉากบางฉาก ที่..ไม่ต้องวิจารณ์ก็ได้ เช่น ฉากแมว... ทำไมแมวมาอยู่ในป่าฟ่ะ.... 555
ฟังแล้วเหมือนกับว่า เขาไม่รู้จะพูดถึงอะไรในหนังเรื่องนี้ เพราะดูแล้วมึน ๆ
แต่เราดู เราเข้าใจ และ เชื่อว่า คริสตชนที่สนใจศาสนาจริง ๆ จะget เหมือนกัน
ว่าทำไม คน ๆ หนึ่งถึงได้ รัก หวงแหน และ รักษาพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่เหลือเล่มเดียวในโลกถึงขนาดนั้น
แต่คนต่างศาสนาจะคิดว่า ทำไมต้องอยากได้ไบเบิ้ลขนาดนั้นฟ่ะ
อิอิอิ ก็จบด้วยอารมณ์ ขำ ๆ ค่ะ
แสดงว่า หนังปลอดภัย ดูได้ ^_^
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ถ้าบทความของพี่โฮลี่ ได้อธิบายให้คนที่ดูแล้วไม่รู้เรื่องได้ฟังด้วยก็คงดี
เราเองก็ยังไม่ได้ดูเลย เริ่มต้องหาโอกาสไปดูบ้างซะแล้ว
เราเองก็ยังไม่ได้ดูเลย เริ่มต้องหาโอกาสไปดูบ้างซะแล้ว
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ คิดว่าพี่ Holy พูดถึงขนาดนี้ก็น่าไปดูมากแล้วครับ
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
จากข้อมูลและคนที่ดูแล้วเล่าให้ฟังเป็นหนังดีและปลอดภัยค่ะ
ข้าพเจ้าถ้าว่างอาจจะได้ไปดู ถ้าไม่ว่างก็คงรอแผ่น
ข้าพเจ้าถ้าว่างอาจจะได้ไปดู ถ้าไม่ว่างก็คงรอแผ่น
^
^
ต้องแผ่นจริงด้วยนะครับ (แผ่น)ผีสมัยนี้ใช้น้ำเสกไล่ไม่ได้
^
ต้องแผ่นจริงด้วยนะครับ (แผ่น)ผีสมัยนี้ใช้น้ำเสกไล่ไม่ได้
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
^
^
มุกใหม่นะเนี่ย
แต่คงเช่าร้านวีดีโอมาดูค่ะ เพราะจากประสบการณ์การซื้อหนังที่ผ่านมา ดูครั้งเดียวเบื่อ ไม่เคยเปิดดูเป็นครั้งที่ 2
^
มุกใหม่นะเนี่ย
แต่คงเช่าร้านวีดีโอมาดูค่ะ เพราะจากประสบการณ์การซื้อหนังที่ผ่านมา ดูครั้งเดียวเบื่อ ไม่เคยเปิดดูเป็นครั้งที่ 2
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
ไปดูมาแล้วเหมือนกันค่ะ เพิ่งรู้วันนี้ว่าพี่โฮลี่ลงบทความด้วย แหะๆ
โดยส่วนตัวแล้วชอบมากมาย จริงๆตอนแรกมาดูเพราะคิดว่าเป็นหนังบู๊แหลกลานซะอีก
แต่พอเริ่มดูไปเรื่อยๆ เอ๊ะ อ้าว พระคัมภีร์นี่
พี่ชายไปดูด้วยกัน ก็แอบกระซิบถามตลอดเรื่อง (พระเอกเอาคำพูดมากจากไหน ไบเบิ้ลเหรอ เราก็แอบขำเล็กน้อย) พอดีทั้งบ้านมีเราเป็นคริสต์คนเดียว
ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาด้วยเค้าแอบหลับ แป่ว อารมเดียวกันกับเราตอนแรกนึกว่าบู๊ล้างผลาญ
แต่หนังไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเลย มีแง่คิดให้ตลอดเรื่อง ฉากบู๊ก็ โอ้ คอกระเด็นกันเลยทีเดียว
สนุกมากค่ะ ใครมีโอกาสก็ลองดูกันนะคะ
เพราะในหนังมีอะไรมากกว่าแค่ในหนังค่ะ เหมือนอย่างบทความของพี่โฮลี่บทนี้
ขอพระอวยพรทุกท่านค่า
ป.ล. ข้อ 10 โดนใจมากค่ะ ถ้าคุณไม่อาบน้ำ มันจะเหม็นไปไกลมาก 555+
โดยส่วนตัวแล้วชอบมากมาย จริงๆตอนแรกมาดูเพราะคิดว่าเป็นหนังบู๊แหลกลานซะอีก
แต่พอเริ่มดูไปเรื่อยๆ เอ๊ะ อ้าว พระคัมภีร์นี่
พี่ชายไปดูด้วยกัน ก็แอบกระซิบถามตลอดเรื่อง (พระเอกเอาคำพูดมากจากไหน ไบเบิ้ลเหรอ เราก็แอบขำเล็กน้อย) พอดีทั้งบ้านมีเราเป็นคริสต์คนเดียว
ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาด้วยเค้าแอบหลับ แป่ว อารมเดียวกันกับเราตอนแรกนึกว่าบู๊ล้างผลาญ
แต่หนังไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเลย มีแง่คิดให้ตลอดเรื่อง ฉากบู๊ก็ โอ้ คอกระเด็นกันเลยทีเดียว
สนุกมากค่ะ ใครมีโอกาสก็ลองดูกันนะคะ
เพราะในหนังมีอะไรมากกว่าแค่ในหนังค่ะ เหมือนอย่างบทความของพี่โฮลี่บทนี้
ขอพระอวยพรทุกท่านค่า
ป.ล. ข้อ 10 โดนใจมากค่ะ ถ้าคุณไม่อาบน้ำ มันจะเหม็นไปไกลมาก 555+
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 13, 2010 5:55 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
น่าดูชมยิ่งนัก
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
สบายดีเจ้าค่ะ พี่อันตนอันตน เขียน: น้องเล็กโนเซารัสสบายดีไหมครับ
ช่วงหลังๆไม่ค่อยปรากฎตัว แอบๆอยู่เจ้าค่ะ แหะๆ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
วันนี้ไปดูมาแล้วค่ะ (เพียงลำพัง นี่เป็นครั้งแรกที่ดูหนังตัวคนเดียว (ปกติไม่มีคนให้ชวนไม่เข้าเลย 555+))
ก็นับว่าตื่นเต้นและโอเคค่ะ ปกติชอบอะไรบู๊ล้างผลาญอยู่แล้ว พระเอกนี่ทั้งเก่ง (และอึด) เข้าขั้นเทพเวอร์เลย แต่นี่แหละสะใจ หุๆ
ตัวร้ายก็..... อยากเห็นทอมแฮงค์เล่นบทโฉดแบบนี้แล้วเดี้ยงตอนจบมานานแล้ว หึหึหึ (คงจำไม่ผิดนะ หน้าแบบนี้มีแค่คนเดียวแหละ เหอะๆ)
ตอนจบนางเอกเท่มาก สงสัยช่วงตัดฉากคงไปฝึกวิชามาดีสิท่า ถ้ามีภาคหน้าคงได้เห็นคุณเธอโชว์เทพบ้าง หึหึ
พระเอกนี่ก็เก่งนะ ถึงจะบอกว่าอ่าน 30 ปี แต่จำได้ทุกกระเบียดนิ้วไม่พอ อักษรที่พี่แกอ่านก็คือ......(สปอยล์)
สารภาพว่าตอนแรกเห็นพระเอกไม่สนใจเวลาพวกโจรปล้นคนอื่นตามทาง แอบเคืองหน่อย ๆ (แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า ถ้าไม่มีท่าไม้ตายแบบไซแฟลช(อธิบายสำหรับคนไม่ใช่สาวกเลือดเหล็ก: ทำนองกวาดศัตรูรอบทิศทุกตัวโดยตัวเองกับพวกเดียวกันไม่เป็นไร) อยู่เฉยไว้ก็ดีกว่าตายเปล่า)
แต่ก็พอโอ เมื่อเห็นหัวหน้าโจรสยบต่อพลังแขนสุด "เทพ" ของพี่แก
(นี่ตกลงดูเพราะมีสาระ หรือดูเพราะความ "เทพ" ของพระเอกกันแน่เนี่ย)
ก็นับว่าตื่นเต้นและโอเคค่ะ ปกติชอบอะไรบู๊ล้างผลาญอยู่แล้ว พระเอกนี่ทั้งเก่ง (และอึด) เข้าขั้นเทพเวอร์เลย แต่นี่แหละสะใจ หุๆ
ตัวร้ายก็..... อยากเห็นทอมแฮงค์เล่นบทโฉดแบบนี้แล้วเดี้ยงตอนจบมานานแล้ว หึหึหึ (คงจำไม่ผิดนะ หน้าแบบนี้มีแค่คนเดียวแหละ เหอะๆ)
ตอนจบนางเอกเท่มาก สงสัยช่วงตัดฉากคงไปฝึกวิชามาดีสิท่า ถ้ามีภาคหน้าคงได้เห็นคุณเธอโชว์เทพบ้าง หึหึ
พระเอกนี่ก็เก่งนะ ถึงจะบอกว่าอ่าน 30 ปี แต่จำได้ทุกกระเบียดนิ้วไม่พอ อักษรที่พี่แกอ่านก็คือ......(สปอยล์)
สารภาพว่าตอนแรกเห็นพระเอกไม่สนใจเวลาพวกโจรปล้นคนอื่นตามทาง แอบเคืองหน่อย ๆ (แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า ถ้าไม่มีท่าไม้ตายแบบไซแฟลช(อธิบายสำหรับคนไม่ใช่สาวกเลือดเหล็ก: ทำนองกวาดศัตรูรอบทิศทุกตัวโดยตัวเองกับพวกเดียวกันไม่เป็นไร) อยู่เฉยไว้ก็ดีกว่าตายเปล่า)
แต่ก็พอโอ เมื่อเห็นหัวหน้าโจรสยบต่อพลังแขนสุด "เทพ" ของพี่แก
(นี่ตกลงดูเพราะมีสาระ หรือดูเพราะความ "เทพ" ของพระเอกกันแน่เนี่ย)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 13, 2010 7:47 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
วันนี้ไปเดอะมอลล์บางแคจะไปดูปรากฎว่ามีรอบเดียวคือตอน 17.50 -*- ไปถึงเดอะมอลล์ตอน 12.00 เลยไปดูแวมไพรแทน รอดูแผ่นแท้
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เรื่องพระเอกอ่านไบเบิ้ลภาษานั้น เพราะเขาเป็นอย่างนั้นค่ะ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
เพล้ง!!!! หน้าแตกสิคะ (เขาว่าในสายตาชาวเอเชีย ฝรั่งหน้าคล้าย ๆ กันไปหมดนี่จริงสินะ)Holy เขียน: คนเล่นเป็นผู้ร้ายคือ แกรี่ โอลด์แมน
(เมาแล้วยังอ้างอีกนะยัยนี่)
- Jeanne d'Arc
- โพสต์: 235
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm
กะแล้วเีชียว~@Little lamb@~ เขียน: เรื่องพระเอกอ่านไบเบิ้ลภาษานั้น เพราะเขาเป็นอย่างนั้นค่ะ : xemo026 :
หนังเรื่องนี้สอนดีมากจริงๆนะครับ
และผมก็เชื่อแบบหนังด้วยว่า ลองเมื่อไหร่โลกไร้ไบเบิ้ลดู ได้เป็นอย่างนั้นแน่ๆ
P$. พวกกลุ่มโปรเจคโรงพิมพ์ฟื้นฟูโลกเท่ดีครับ
น่าดู น่าชม ครับ...
แต่ยังไม่ได้ไปดูเลย...
คงต้องรอแผ่นแล้วล่ะ... อิอิอิ