อยากได้คำแนะนำค่ะ
เกือบสิบปีก่อน คุณป้าได้เสียชีวิตและเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าไปร่วมในพิธีของศาสนาคริสต์ ทำให้รู้สึกว่า บรรยากาศรอบๆมันเต็มไปด้วยความรักมากมาย
จนรุ้สึกว่าความตายไม่ได้พรากคุณป้าไป มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หรืออาจเพราะยังเด็ก เลยไม่รู้ว่าการสูญเสียมันเป็นยังๆง
แต่วันนี้เมื่อเราได้ทุ่มเททั้งความรัก การดูแลทั้งหมดให้คุณแม่ หลังจากรู้ว่าท่านเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย พยายามสู้กับการสิ้นหวังมาตลอด คิดว่าจะต้องมีหวัง แต่แล้วแม่ก็จากไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ยอมรับว่าเคว้งมาก แทบไม่มีกำลังใจทำอะไร ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เพราะสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เท่านั้น ยังไม่เห็นอนาคตว่าจะทำอะไรต่อไป หรือต้องการทำอะไร
ขอโทษนะคะ เหมือนเข้ามาระบายความในใจยังไงก็ไม่รู้
แต่การไปวัด นั่งสมาธิ หรืออะไรที่ผ่านๆมา แทบไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก นอกจากทำให้ตัวเองพยายามมีสติ รู้ว่ากำลังจะทำอะไรเท่านั้น
...
....
ดูจะเป็นคำถามที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไร...แต่อยากรู้ค่ะว่า พระเจ้า จะช่วยคนอย่างเราให้หายเศร้า ช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้นบ้างได้มั้ยคะ
เพื่อนที่เป็นคริสต์เคยบอกว่า พระเจ้าจะช่วยเราเสมอ และไม่มีวันทอดทิ้งคนที่รักพระองค์ ... เป็นอย่างนั้นรึเปล่าคะ
จนรุ้สึกว่าความตายไม่ได้พรากคุณป้าไป มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หรืออาจเพราะยังเด็ก เลยไม่รู้ว่าการสูญเสียมันเป็นยังๆง
แต่วันนี้เมื่อเราได้ทุ่มเททั้งความรัก การดูแลทั้งหมดให้คุณแม่ หลังจากรู้ว่าท่านเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย พยายามสู้กับการสิ้นหวังมาตลอด คิดว่าจะต้องมีหวัง แต่แล้วแม่ก็จากไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ยอมรับว่าเคว้งมาก แทบไม่มีกำลังใจทำอะไร ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เพราะสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เท่านั้น ยังไม่เห็นอนาคตว่าจะทำอะไรต่อไป หรือต้องการทำอะไร
ขอโทษนะคะ เหมือนเข้ามาระบายความในใจยังไงก็ไม่รู้
แต่การไปวัด นั่งสมาธิ หรืออะไรที่ผ่านๆมา แทบไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก นอกจากทำให้ตัวเองพยายามมีสติ รู้ว่ากำลังจะทำอะไรเท่านั้น
...
....
ดูจะเป็นคำถามที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไร...แต่อยากรู้ค่ะว่า พระเจ้า จะช่วยคนอย่างเราให้หายเศร้า ช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้นบ้างได้มั้ยคะ
เพื่อนที่เป็นคริสต์เคยบอกว่า พระเจ้าจะช่วยเราเสมอ และไม่มีวันทอดทิ้งคนที่รักพระองค์ ... เป็นอย่างนั้นรึเปล่าคะ
มธ 11:28-30 พระคริสตเจ้าทรงเป็นเจ้านายที่สุภาพอ่อนโยน
“ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตนจิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน เพราะว่าแอกของเราอ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา”
-คุยง่ายๆครับ เปิดใจคุยเหมือนคุยกับพ่อแม่ คุญกับพรองค์ระบายความทุกข์ให้พระองค์ฟัง แล้ววอนขอพระองค์ทรงช่วยเหลือครับ
พระเจ้ารักคุณครับ
ลองดูคลิปอันนี้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=1xDn0p7eMsU
“ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตนจิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน เพราะว่าแอกของเราอ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา”
-คุยง่ายๆครับ เปิดใจคุยเหมือนคุยกับพ่อแม่ คุญกับพรองค์ระบายความทุกข์ให้พระองค์ฟัง แล้ววอนขอพระองค์ทรงช่วยเหลือครับ
พระเจ้ารักคุณครับ
ลองดูคลิปอันนี้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=1xDn0p7eMsU
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ดิฉันก็พ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเหมือนกันค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้เศร้าโศกเสียใจ
เพราะพระเจ้าทรงให้ความหวังกับเรา ชีวิตนิรันดรที่พระเจ้าสัญญากับเรา
ทำให้เราชาวคริสต์ไม่ได้มองความตายว่าคือการจบทุกสิ่ง แต่เรามองว่าเป็นการเริ่มต้นค่ะ
เราแค่จากกันแค่ชั่วคราว แต่เรายังมีความหวังว่า เราจะได้พบกันอีกในสวรรค์
ที่นั่นจะมีแต่ความชื่นชมยินดี ไม่มีการพลัดพรากจากกันอีก เราจากกันในโลกนี้
เพื่อจะพบกันใหม่ในสวรรค์ค่ะ
ด้วยความเชื่อนี้ ทำให้เรามีกำลังใจค่ะ
คุณแม่ก็ยังอยุ่กับคุณนั่นแหละค่ะ เพียงแต่เปลี่ยนสถานะไป คุณไม่เห็นคุณแม่เท่านั้น
แต่ท่านก็ยังอยู่ข้าง ๆ คุณนั่นแหละ และคงกำลังเป็นห่วงคุณมาก
ที่เห็นว่าคุณกำลังท้อแท้สิ้นหวัง หมดกำลังใจ
ก็ลองคุกเข่าลง พูดกับพระเจ้า เหมือนกับที่ลูกพูดกับพ่อแม่นั่นแหละค่ะ
พูดง่าย ๆ ภาษาง่าย ๆ เช่น
"พระบิดาเจ้า ลูกโศกเศร้ากับการจากไปของคุณแม่มาก โปรดช่วยลูกด้วย
บรรเทาใจลูกด้วย ให้ลูกเข้มแข็งขึ้น โปรดเมตตาดูแลดวงวิญญาณคุณแม่ของลูกด้วย ...." เป็นต้นค่ะ
พูดง่าย ๆ แบบนี้แหละค่ะ
เพราะพระเจ้าทรงให้ความหวังกับเรา ชีวิตนิรันดรที่พระเจ้าสัญญากับเรา
ทำให้เราชาวคริสต์ไม่ได้มองความตายว่าคือการจบทุกสิ่ง แต่เรามองว่าเป็นการเริ่มต้นค่ะ
เราแค่จากกันแค่ชั่วคราว แต่เรายังมีความหวังว่า เราจะได้พบกันอีกในสวรรค์
ที่นั่นจะมีแต่ความชื่นชมยินดี ไม่มีการพลัดพรากจากกันอีก เราจากกันในโลกนี้
เพื่อจะพบกันใหม่ในสวรรค์ค่ะ
ด้วยความเชื่อนี้ ทำให้เรามีกำลังใจค่ะ
คุณแม่ก็ยังอยุ่กับคุณนั่นแหละค่ะ เพียงแต่เปลี่ยนสถานะไป คุณไม่เห็นคุณแม่เท่านั้น
แต่ท่านก็ยังอยู่ข้าง ๆ คุณนั่นแหละ และคงกำลังเป็นห่วงคุณมาก
ที่เห็นว่าคุณกำลังท้อแท้สิ้นหวัง หมดกำลังใจ
ก็ลองคุกเข่าลง พูดกับพระเจ้า เหมือนกับที่ลูกพูดกับพ่อแม่นั่นแหละค่ะ
พูดง่าย ๆ ภาษาง่าย ๆ เช่น
"พระบิดาเจ้า ลูกโศกเศร้ากับการจากไปของคุณแม่มาก โปรดช่วยลูกด้วย
บรรเทาใจลูกด้วย ให้ลูกเข้มแข็งขึ้น โปรดเมตตาดูแลดวงวิญญาณคุณแม่ของลูกด้วย ...." เป็นต้นค่ะ
พูดง่าย ๆ แบบนี้แหละค่ะ
ได้สิครับ พระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าของศาสนาใดศาสนาหนึ่งนะครับ เรากำลังพูดถึงพระเจ้าผู้สร้างทุกสิ่งรวมทั้งจิตวิญญาณทุกดวง
รม 3:29
พระเจ้าเป็นพระเจ้าของชาวยิวเท่านั้นหรือ ไม่ได้เป็นพระเจ้าของคนต่างชาติด้วยหรือ แน่นอน ยังเป็นพระเจ้าของคนต่างชาติด้วย เพราะพระเจ้ามีเพียงพระองค์เดียว
ถ้าพ่อแม่ที่ให้กำเนิดร่างกายเรายังรักเรา แล้วพระเจ้าที่ให้กำเนิดวิญญาณอันเป็นนิรันดร์จะไม่รักเรามากกว่านั้นอีกหรือ
ลูกบางคนอาจเกิดมาโดยไม่ทราบว่าพ่อแม่ของตนเป็นใคร แต่นั่นไม่ได้แปลว่า เขาไม่ใช่ลูกของพ่อแม่หรอกนะครับ
พระองค์ให้กำเนิดจิตวิญญาณของคุณ และส่งคุณมายังโลก เพียงแต่ว่าคุณอาจเกิดในเวลาและสถานที่ ที่ไม่ได้รู้จักพระองค์จากการเรียนรู้ในสังคมได้ทันที แต่พระองค์ใส่ความระลึกและตระหนักรู้นั้นไว้ในจิตวิญาณของคุณแล้ว เหมือนเด็กเล็กๆที่เกิดมาก็โหยหาการกอด การรัก การดูแล โหยหาพ่อและแม่ที่ให้กำเนิด
ในจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคนก็เช่นกัน ลึกๆทุกคนแสวงหาสิ่งที่มีสถานะพระเจ้า แม้บางคนมีอคติทางศาสนา ปากบอกว่าเกลียดพระเจ้า ไม่เชื่อพระเจ้า แต่ก็แสวงหาอะไรบางอย่างมายกไว้ที่ฐานะพระเจ้าเพื่อกราบไหว้ และยึดเหนี่ยว ทั้งที่สิ่้งนั้นไม่ใช่พระเจ้าอย่างแท้จริง บางคนอคติกับเรื่องศาสนาอ้างว่าไม่นับถือศาสนา แต่ก็ยังแสวงหาฮีโร่ หรือมนุษย์สักคน มาชื่นชม ยกย่อง เป็นไอดอล
แต่คนที่พบพระเจ้าในฐานะที่พระองค์เป็นจริงๆ จะจบกับการแสงหาแบบนั้นครับ เพราะเขาได้พบเจอสิ่งที่เติมเต็มจิตวิญญาณอย่างแท้จริงแล้ว
ดังนั้น อย่ากลัวเลยครับ เพราะพระองค์ทรงรักคุณไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะนับถือศาสนาไหน เพราะพระองค์ทรงอยู่มาก่อนโลกและศาสนาทุกศาสนา และศาสดาของโลกนี้ทุกองค์จะกำเนิดขึ้นมาซะอีก และพระองค์รักคุณครับ
ยน 6:37
ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา
และผู้ที่มาหาเรา
เราจะไม่ผลักไสไปเลย
เพราะเราลงมาจากสวรรค์
มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา
แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา
พระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาก็คือ
เราจะไม่สูญเสียผู้ใด
ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เรา
รม 3:29
พระเจ้าเป็นพระเจ้าของชาวยิวเท่านั้นหรือ ไม่ได้เป็นพระเจ้าของคนต่างชาติด้วยหรือ แน่นอน ยังเป็นพระเจ้าของคนต่างชาติด้วย เพราะพระเจ้ามีเพียงพระองค์เดียว
ถ้าพ่อแม่ที่ให้กำเนิดร่างกายเรายังรักเรา แล้วพระเจ้าที่ให้กำเนิดวิญญาณอันเป็นนิรันดร์จะไม่รักเรามากกว่านั้นอีกหรือ
ลูกบางคนอาจเกิดมาโดยไม่ทราบว่าพ่อแม่ของตนเป็นใคร แต่นั่นไม่ได้แปลว่า เขาไม่ใช่ลูกของพ่อแม่หรอกนะครับ
พระองค์ให้กำเนิดจิตวิญญาณของคุณ และส่งคุณมายังโลก เพียงแต่ว่าคุณอาจเกิดในเวลาและสถานที่ ที่ไม่ได้รู้จักพระองค์จากการเรียนรู้ในสังคมได้ทันที แต่พระองค์ใส่ความระลึกและตระหนักรู้นั้นไว้ในจิตวิญาณของคุณแล้ว เหมือนเด็กเล็กๆที่เกิดมาก็โหยหาการกอด การรัก การดูแล โหยหาพ่อและแม่ที่ให้กำเนิด
ในจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคนก็เช่นกัน ลึกๆทุกคนแสวงหาสิ่งที่มีสถานะพระเจ้า แม้บางคนมีอคติทางศาสนา ปากบอกว่าเกลียดพระเจ้า ไม่เชื่อพระเจ้า แต่ก็แสวงหาอะไรบางอย่างมายกไว้ที่ฐานะพระเจ้าเพื่อกราบไหว้ และยึดเหนี่ยว ทั้งที่สิ่้งนั้นไม่ใช่พระเจ้าอย่างแท้จริง บางคนอคติกับเรื่องศาสนาอ้างว่าไม่นับถือศาสนา แต่ก็ยังแสวงหาฮีโร่ หรือมนุษย์สักคน มาชื่นชม ยกย่อง เป็นไอดอล
แต่คนที่พบพระเจ้าในฐานะที่พระองค์เป็นจริงๆ จะจบกับการแสงหาแบบนั้นครับ เพราะเขาได้พบเจอสิ่งที่เติมเต็มจิตวิญญาณอย่างแท้จริงแล้ว
ดังนั้น อย่ากลัวเลยครับ เพราะพระองค์ทรงรักคุณไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะนับถือศาสนาไหน เพราะพระองค์ทรงอยู่มาก่อนโลกและศาสนาทุกศาสนา และศาสดาของโลกนี้ทุกองค์จะกำเนิดขึ้นมาซะอีก และพระองค์รักคุณครับ
ยน 6:37
ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา
และผู้ที่มาหาเรา
เราจะไม่ผลักไสไปเลย
เพราะเราลงมาจากสวรรค์
มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา
แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา
พระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาก็คือ
เราจะไม่สูญเสียผู้ใด
ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เรา
พระเจ้าท่านเมตตา เสมอค่ะ ไม่ว่าจะเป็น คริสต์หรือไม่ แค่คุณเชื่อในพระองค์ ศรัทธาในพระองค์ อยากพูดอยากคุย ได้ทุกอย่างค่ะ
คุยกับพระแม่ มารี ก็ได้นะคะ แม่พระใจดี รักทุกคนถึงแม้คุณจะไม่ได้เป็นคริสต์ก็เหอะ
ลองคุยกับพระเจ้า และ แม่พระสิคะ
คุยกับพระแม่ มารี ก็ได้นะคะ แม่พระใจดี รักทุกคนถึงแม้คุณจะไม่ได้เป็นคริสต์ก็เหอะ
ลองคุยกับพระเจ้า และ แม่พระสิคะ
ลองพูดคุยกับพระเป็นเจ้าดูนะครับ พระองค์ทรงรักเรา ยกตัวอย่าง อย่างผมเนี่ยครับ ตอนผมเป็นพุทธ ผมรู้สึกเคว้งคว้างมากครับ คือ เค้าว่าอะไรศักดิ์สิทธิ์ก็จะดันด้นไปหาสิ่งๆนั้น มีเครื่องรางของขลังอะไีรดีๆก็จะไปหามันให้ได้ แต่หลังจากที่ผมรู้จักพระเจ้า ได้สัมผัสความรัักของพระองค์ทำให้ผมรู้ว่าการกระทำแบบนั้นที่ผมได้ทำลงไป มันช่างไร้สาระเสียจริง ตอนนี้ผมมั่นคงครับ ผมยังรู้ว่าถึงไม่มีผู้ใดรักเรา แต่เราก็ยังมีพระเป็นเจ้า และ แม่พระ ที่รักเรา อย่างเสมอต้นเสมอปลายครับ แล้วความรักของพระองค์ก็ไม่เคยลดลงเลยครับ
ขอให้ค้นพบคำตอบที่แ้ท้จริงของตัวคุณนะครับ
ขอให้ค้นพบคำตอบที่แ้ท้จริงของตัวคุณนะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สวดขอพระองค์ซึ่งความเข้มแข็งนะครับ
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
พระช่วยได้ครับ
- ~~~พระเจ้าทรงคุ้มครอง~~~
- โพสต์: 139
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 18, 2009 12:13 am
พระเจ้าทรงเมตตาเสมอแหละครับ...ไม่ว่าจะยังไง
ร่างกายของเรามาจากพระ ก็ต้องกลับไปเป็นของพระท่านอยู่ดี ยังไงก็ขอให้สุ้ต่อไปแล้วกันครับ อธิษฐานภาวนากับท่านเยอะๆ บ่อยๆ แล้วท่านก็จะช่วยเราเองหล่ะครับ
ร่างกายของเรามาจากพระ ก็ต้องกลับไปเป็นของพระท่านอยู่ดี ยังไงก็ขอให้สุ้ต่อไปแล้วกันครับ อธิษฐานภาวนากับท่านเยอะๆ บ่อยๆ แล้วท่านก็จะช่วยเราเองหล่ะครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ตามพี่Holy บอกเลยค่ะ
พระเจ้ารักคุณ ตั้งแต่ตอนที่คุณไม่รู้จักพระองค์เลย
พระเจ้ารักคุณ ตั้งแต่ตอนที่คุณไม่รู้จักพระองค์เลย
ลองหาโอกาสไปภาวนาต่อพระเจ้า ในวัดคริสต์ ดีมี๊ยคะChopin เขียน: เราสามารถพูดคุย ภาวนาต่อพระเจ้าได้ทั้งๆที่เราไม่ใช่คริสต์เหรอคะ
ตัวเราเองถึงจะเป็นพุทธ แต่ในใจลึกๆก็เชื่อว่าพระเจ้ามีความรักมอบให้จริง อยากจะลองสัมผัสกับความรักของพระเจ้าซักครั้ง
แบบนี้ได้มั้ยคะ พระเจ้าจะยอมรับคนแบบเรามั้ยคะ
จะได้สัมผ้สกับความรักของพระที่มีต่อเราค่ะ