อาเเมน หรือ อาเมน

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 10:44 am

คือเมจิสงสัยว่าทำไมบางคนถึงพูดว่า อาเเมน เเต่บางคนพูด อาเมน หลังจากรับศีลนะค่ะ เเต่ในพระคัมภีร์ที่เมจิอ่านบ่อยๆเค้าใช้ อาเเมน เเต่คำภีร์ของมอรมอนที่เมจิก็อ่านอยู่ พอจบเค้าใช้อาเมน :s030:

ตกลงเค้าใช้อาไรกันหรอค่ะ :s030:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 11:04 am

เนื่องมาจากความเพี้ยนทางสำเนียงภาษาน่ะ

แต่คิดว่าถ้าใช้ใจในการสื่อความหมาย ก็คงจะดีกว่าใช้คำถูกแต่ความหมายในใจไม่ให้เลยในบางครั้ง
sdjakapong
โพสต์: 164
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 24, 2011 2:17 pm

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 11:52 am

ถ้าจำไม่ผิดนะ อาแมนเป็นเสียงที่อาจเพี้ยนมาจากทางฝรั่งเศสครับ ส่วน "อาเมน" และ "เอเมน" ก็เป็นเสียงภาษาอังกฤษทั่วไปครับ
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 12:51 pm

เมจิ เขียน:คือเมจิสงสัยว่าทำไมบางคนถึงพูดว่า อาเเมน เเต่บางคนพูด อาเมน หลังจากรับศีลนะค่ะ เเต่ในพระคัมภีร์ที่เมจิอ่านบ่อยๆเค้าใช้ อาเเมน เเต่คำภีร์ของมอรมอนที่เมจิก็อ่านอยู่ พอจบเค้าใช้อาเมน :s030:

ตกลงเค้าใช้อาไรกันหรอค่ะ :s030:
สวัสดีครับคุณเมจิ

รูปภาพ

อาแมน อาเมน เอเมน...แปลว่า "จริงแท้ แน่นอน เชื่อถือได้" หรือพูดภาษาสวยแบบเราพูด
ในโบสถ์เราจะตอบ เหมาะสมและชอบยิ่งนัก หากแปลตรง ๆ ตาม ภาษาอังกฤษ "So be it,truly"
(เป็นจริงเช่นนั้น) ประมาณนั้น คนไทยไม่มีทาง...แปลตรงตัว เช่น แปล พระคัมภีร์ ต้องเป็นบท
กลอน...คล้องจอง ภาษาสวย

แบบชาวพุทธเวลาพระเทศน์จบจะกล่าวว่า "สาธุ" ก็แปลว่า ดีแล้ว ชอบแล้ว

ผมขอยกตัวอย่างบทกวีที่กำลังฮิต ในโลกอินเตอร์เนตตอนนี้ ของ นางดอว์ อองซาน ซู ขจี
(ชื่อ เต็ม ดอว์ อองซาน ซู ขจี มาจาก ชื่อ พ่อ นายพลอองซาน ชื่อแม่ ดอว์ ขิ่น ขจี และ
ชื่อตัวคือ ซู และชื่อนามสกุล คือ ขจี อ่าน Kyi อ่าน ขจี ไม่ใช่ "จี" อย่างที่นักข่าวเขียนกัน)
บทกวีชื่อ Fear หรือ "กลัว"

รูปภาพ
"FEAR"
By Dor Aung San Suu Kyi

Emerald cool we may be
As water in cupped hand.
But, Oh, that we may be
As splinters of glass in cupped hand

"กลัว"
ถอดความโดย คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา

แม้เยือกเย็นเช่นนทีสีมรกต
นิ่งน้ำใสในกรอบกฎอุ้งหัตถา
ยังมุ่งหวัง - พลังแกร่งแข็งขึ้นมา
จนคมกล้าเป็นแก้วกาจบาดอุ้งมือ

::007::

สำเนียงภาษาเพี้ยนไปตามถิ่นที่อยู่วัฒนธรรม เหมือนคำว่า Data บางคนอ่านว่า เดต้า เหมือน
ชาวอเมริกัน บางคนอ่านว่า ดาต้า เหมือนคนยุโรป เหมือนพระเยซู ยุโรปเรียก จีซัส อาหรับเรียก
อีซา นักบุญโยเซฟ บ้านเราเรียก ยอแซฟ แคททอลิก บ้านเราเรียก คาทอลิก หรือกรณีชาว
พม่าออกเสียง "ร" ไม่ได้ จึงเรียกเมือง ร่างกุ้ง ว่า ย่างกุ้ง เรียกถิ่นของชาวโรฮิงญา ที่มาจาก
รัฐระไข่ พม่าเรียก "ยะไข่" หรือแบบกรณีพี่น้องชาวใต้บ้านเรา ออกเสียง ง. ไม่ชัดเรียก เงาะ
ว่า เฮาะ....เหล่านี้ล้วนเป็นความงดงามของภาษาทั้งสิ้น
:s007:





http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1&catid=01
อยากรู้ประวัติศาสนาคริสต์ในเมืองไทย ต้องรู้จัก ความสัมพันธ์ไทย-โปรตุเกส

เราได้รับคำว่า "อาแมน" มาจากชาวโปตุเกสพูด เพราะ คาทอลิกสยามมีต้นกำเนิดมาจาก
โปรตุเกส ตั้งแต่สมัย พระเชษฐาธิราชโปรตุเกสก็ เอามาจาก ภาษาฮิบบรู คือคำว่า Modern

รูปภาพ

จริง ๆ แล้วหากใครได้ดูภาพยนตร์เรื่อง “สุริโยไท” ของท่านมุ้ย จะเห็นได้ว่าในเรื่องเริ่มมี
บาทหลวง และทหารโปรตุเกส แต่จริง ๆ แล้วการเข้ามาของศาสนาคริสต์(คาทอลิก) ในไทย
ได้เข้ามา ยุคล่าอาณานิคมกล่าวคือ เมื่อโปรตุเกสยึดแหลมมะละกา โดยอัลฟองโซ อัลบูเกิร์ก
อุปราชโปรตุเกสที่ปกครองอินเดียอยู่ โดยยึดได้ในปี ค.ศ. 1511 (พ.ศ. 2054) (ตรงนี้ใครอ่าน
ประวัติคาทอลิกในไทย ฉบับร่วมฉลองครองราชย์ 50 ปี บทที่ 1 เลย เค้าจะพิมพ์ พ.ศ.ผิด
เป็น 2504 ซึ่งผิดครับ) พ.ศ.2054 นี่ ตรงกับรัชสมัยของ พระรามาธิบดีที่ 2 หรือ พระเชษฐา
ธิราช
ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ของกรุงศรีอยุธยา)

ซึ่งอัลบูเกิร์ก ได้ส่งคณะฑูตมาขอเข้าเฝ้ากษัตริย์ไทย(หากใครเคยอ่านประวัติศาสตร์ไทย
จริง ๆ แล้วมีชาวโปรตุเกส เขียนแผนที่ในยุคนี้ ไม่ใช่ยุคพระณารายณ์) โปตุเกสส่งฑูต
เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและการค้า พระองค์ทรงตอบรับไมตรีจากโปรตุเกส และได้ทำสัญญา
ทางราชไมตรี และทางการค้าต่อกัน เมื่อปีพ.ศ. 2059 นับเป็นสัญญาฉบับแรกที่ไทยทำกับ
ต่างประเทศ ใครศึกษาจึงพบว่าความสัมพันธ์โปตุเกส ไทยยาวนานพอ ๆ กับอายุกรุงศรีอยุธยา
ยังมีคำโปรตุเกสอยู่ในชีวิตเราหลายคำ เช่น คริสตัง,เลหลัง,ขนมปัง,มิสซัง

เรื่องภาษาเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาลงไปในประวัติศาสคร์ครับ เช่น คำว่า ขอม มาจาก แขมร์กรอม
(คือ เขมรต่ำ) แล้วเพี้ยนมาเป็น กร๋อม แล้วจึงเป็นขอม ส่วนพี่น้องย่านอีสานใต้ สุรินทร์ บุรีรัมย์
เราเรียก แขมร์ลือ (เขมรสูง) เพราะอยู่ที่ราบสูง แขมร์กรอม อยู่แถบโตนเลสาบ เรียก เขมรต่ำ
เป็นที่ราบลุ่ม

หรือเช่นรัชสมัย ร.5 พวกฝรั่งล่าอาณานิคม มาสอนภาษาอังกฤษ คนไทยเรากลืนไม่เข้าคาย
ไม่ออก แต่การดื้อแพ่ง หรือ อารยะขัดขืน ฝรั่งเรียก Civil disobedience ฝรั่งสอนอ่าน Copany
เราอ่าน กัมปานี, Telegraph เราอ่านตะแล็บแก็บ,Commercial เราอ่าน กัมมาจล จนเป็นชื่อ
เก่าของธนาคารไทยพาณิชย์ แบงก์สยามกัมมาจล ก็มาจากคำนี้

อาแมน...ภาษาอังกฤษ
http://en.wikipedia.org/wiki/Amen

ในกระทู้ Newmana เคยมีคุณทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ถามไว้ ลองอ่านดูนะครับ
viewtopic.php?f=1&t=7918

ปล. ตั้งแต่ผมเกิดมาจนอายุป่านนี้(เกือบครึ่งชีวิตแล้ว) คาทอลิกไทยใช้คำว่า อาแมน ในโบสถ์
คำว่า เอเมน น่าจะมาจากชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในไทย ผนวกกับคนไทยที่ชอบเลียนแบบ
การออกเสียงของต่างชาติก็เลยเรียก เอเมน ซึ่งเดี๋ยวนี้ชาวคาทอลิกต่างชาติเยอะมาก ความ
เคลื่อนไหวของภาษาจึงเกิดขึ้น และมีััพัฒนาการ เรียกการผสมผสานทางวัฒนธรรม แบบเราเรียก
ลิงอุลังอุตัง...ซึ่งมาจากภาษา มาเลย์ฯ แปลว่า คนป่า(เพราะอุลังอุตัง เหมือนคน) เป็นต้น หรือ
คำว่า มิสซัง ที่เราใช้มาจากภาษาโปรตุเกส ซึ่งไม่มีบัญญัติในพจนานุกรมภาษาไทย มาจากคำว่า
(Mission) = ขอบเขตปกครองของสังฆราช

:s023:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ (เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์)
แก้ไขล่าสุดโดย peopletribune เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 7:32 pm, แก้ไขไปแล้ว 16 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 2:15 pm

เป็นอย่างนี้นี่เอง เข้าใจเรื่องต่างๆในประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยรู้มาก่อนมากขึ้น ขอบคุณ ขอบคุณ.... :s002:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 7:28 pm

::055:: ขอบคุณค่ารู้กระจ่างเเจ้งเลย
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2012 7:37 pm

rosa-lee เขียน:เป็นอย่างนี้นี่เอง เข้าใจเรื่องต่างๆในประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยรู้มาก่อนมากขึ้น ขอบคุณ ขอบคุณ.... :s002:
ขอบคุณ คุณrosa-lee มากครับ ...ประวัติศาสตร์ บอกปัจจุบัน และจะทำให้เราศึกษาศาสนา
ด้วยความเข้าใจมากขึ้น ครับ

:s007:
เมจิ เขียน:::055:: ขอบคุณค่ารู้กระจ่างเเจ้งเลย
ขอบคุณ คุณเมจิ มากครับ

หากมีสิ่งใดที่ผมจะสร้างประโยชน์ใน ศาสนจักรได้ ก็ยินดีนะครับ...มีคำถามอะไรอีกเรียนเชิญ
ได้นะครับ หากตอบได้จะตอบให้ หากตอบไม่ได้จะพยายามค้นคว้ามาตอบให้ เพื่อให้ทุกท่าน
ศึกษา ศาสนาอย่างเข้าใจ และเข้าถึง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 7:36 am

แม้แต่คำว่า เยซู เรายังอ่านเสียงโปรตุเกส ไม่ใช่เสียงอังกฤษว่า จีซัส

ดังนั้นโปรแตสแตนทื เรียกตัวเองว่าคริสเตียนเสียงอังกฤษ แต่เรียกพระเยซูตามแบบคาทอลิกเป็นเสียงโปรตุเกสว่าเยซูไม่ใช่จีซัส
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 2:40 pm

Holy เขียน:แม้แต่คำว่า เยซู เรายังอ่านเสียงโปรตุเกส ไม่ใช่เสียงอังกฤษว่า จีซัส

ดังนั้นโปรแตสแตนทื เรียกตัวเองว่าคริสเตียนเสียงอังกฤษ แต่เรียกพระเยซูตามแบบคาทอลิกเป็นเสียงโปรตุเกสว่าเยซูไม่ใช่จีซัส
สวัสดีครับคุณHoly

คำว่า เยซู มาจากภาษากรีก "อิเอซูส" (Iesous) ที่ภาษาโปรตุเกสที่เรียก "เยซู"เอามาจาก
ภาษาละตินเรียก "เยซูส" เมื่อสมัยก่อนบ้านเราก็ใช้บทสวด ภาษาละติน เดี๋ยวนี้เลิกใช้แล้ว ยังมีแค่
เพลงงานปลงศพ เช่น เพลง เรวีเอม(โอ้พระผู้เป็นเจ้า)...ถ้าใครเคยเรียนคำสอน หรือเป็นเฌรใน
สมัยก่อนจะต้องเรียนภาษาละติน ผมยังจำบทสวด วันทามารีอา ท่อนนึงได้ ที่กล่าวว่า

อาเว มาลีอา กาสินา ดอมินุส >>>ฟุตุสเวนติส ตูอี เยซุส...นี่แหละครับ ภาษาละติน
คำว่า อาเว มาลีอา..คือวันทามารีอา และคำว่า เยซุส คือ เยซู


เรายังมีภาษาละตินใช้ปะปนอยู่บ้าง เช่น พิธีนพวาร แห่โคม ที่เราร้อง "อาเว มารีอา"

http://en.wikipedia.org/wiki/Yeshua_%28name%29

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E% ... B%E0%B8%B9

Requiem æternam
Requiem æternam dona eis, Domine,
et lux perpetua luceat eis.
Te decet hymnus Deus, in Sion,
et tibi reddetur votum in Ierusalem.
Exaudi orationem meam;
ad te omnis caro veniet.
Requiem æternam dona eis, Domine,
et lux perpetua luceat eis.

Requiem æternam (English)
Grant them eternal rest, O Lord,
and let perpetual light shine upon them.
A hymn becomes you, O God, in Zion,
and to you shall a vow be repaid in Jerusalem.
Hear my prayer;
to you shall all flesh come.
Eternal rest grant unto them, O Lord,
and let perpetual light shine upon them.

ผมแปลเป็นไทย(ได้ความประมาณเนี้ยครับ)...

โอ้พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานการพักผ่อนชั่วชั่วนิรันดร์แด่พวกเขา
และโปรดประทานแสงสว่างแด่พวกเขาตลอดไป
บทเพลงแห่งการกลับเป็นขึ้นมาของท่าน โอ้พระผู้เป็นเจ้าในสวงสวรรค์
และท่านจะได้รับการตอบแทนในเยรูซาเลม
โปรดสลับรับฟังคำวิ่งวอนของข้าพเจ้า
เพื่อท่านจะได้มีเนื้อหนังมังสาที่สมบูรณ์
โอ้พระผู้เป็นเจ้า โปรดประทานการพักผ่อนชั่วนิรันดร์แด่พวกเขา
และโปรดประทานแสงสว่างแด่พวกเขาตลอดไป


:s021:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ (เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์)
แก้ไขล่าสุดโดย peopletribune เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2012 3:36 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 3:30 pm

คือเมจิสังสัยว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ไบเบิ้ลไดอารี่ พระคำภีร์มอรมอน ไขมุกอันลํ้าค่า
มันมีความเเตกต่างกันหรือไม่ค่ะช่วยอธิบายทีค่ะ :s002:
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 3:55 pm

สวัสดีคุณพี่ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ ตอบได้ละเอียดดีครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เด็กๆรุ่นหลังได้รับความรู้หลายๆเรื่อง ที่ไม่เคยรู้ครับ
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 4:06 pm

เมจิ เขียน:คือเมจิสังสัยว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ไบเบิ้ลไดอารี่ พระคำภีร์มอรมอน ไขมุกอันลํ้าค่า
มันมีความเเตกต่างกันหรือไม่ค่ะช่วยอธิบายทีค่ะ :s002:
สวัสดีคุณเมจิ อีกครั้ง ครับ

คัมภีร์ไบเบิ้ล นั้นเป็นชื่อเรียก หนังสือที่รวมรวมเรื่องตั้งแต่สมัยพระเจ้าสร้างโลก คำทำนายของ
ประกาศกต่าง ๆ และเหตุการณ์ในสมัยที่พระเยซู ยังมีพระชนม์ชีพ และการเผยแพร่ศาสนาของอัครสาวก เราแยกเป็นภาคพระธรรมเก่า กับ ภาคพระธรรมใหม่

- ภาคพระธรรมเก่า คือ สมัยก่อนพระเยซูประสูติ ตั้งแต่พระเจ้าสร้างโลก อิสราเอลอพยพ
ประกาศกประกาศข่าวดี ฯลฯ จะมีเป็นเรื่อง ๆ เช่น ปฐมกาล,กันดารวิถี,ปรีชาญาณ,บุตรสิรา,
อิสยาห์,เยะรมีห์ เป็นต้น

- ภาคพระธรรมใหม่ คือ ยุคสมัยพระเยซู และหลังพระเยซูทรงถูกตรึงกางเขนและกลับเป็นขึ้นมา ซึ่งบันทึกโดยอัครสาวกของพระเยซู เช่น นักบุญมัทธิว,มาระโก,ลูกา,ยอห์น,กิจการอัครสาวก ฯลฯ

คำว่า ไบเบิ้ล มาจากภาษากรีกว่า บิบลิออน แปลว่า หนังสือ ซึ่งถ้าเป็นภาษาในสมัยพระเยซู
จะเป็นภาษา ฮีบรู ก็คือภาษาที่พัฒนาเป็นภาษาที่ชาวยิว หรือชาวอิสราเอลใช้ในปัจจุบันแหละครับ
แต่ถ้าเป็นภาษายิวโบราณที่ใช้เขียนไบเบิ้ลเราจะเรียก ภาษาฮีบรูไบเบิล (Biblical Hebrew)
แต่ที่ยิวใช้ปัจจุบันนี้มีการพัฒนาของภาษาเหมือนไทยเราพัฒนาภาษามาจากขอม ยิวที่เค้า
กล่าวสวัสดีกันว่า "ชาโลม" พวกยิวถึงภูมิใจในภาษาของเค้ามาก ซึ่งถ้าเป็นภาษาที่เก่าแก่กว่านั้น
เราเรียก ภาษาอีิยิปต์ ที่เห็นเป็นภาษาภาพแหละครับ เรียก ไฮโรกริฟฟิก(Hieroglyph)สมัยนี้
ไม่มีใครใช้แล้วมีแต่นักประวัติศาตร์ ศึกษาเพื่อไปค้นหาปริศนาปิรามิด

รายละเอียดเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิ้ล
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84% ... 4%E0%B8%A5

:s004:
ไบเบิ้ลไดอารี่ เป็นไดอารี่ ที่ออกทุกปีเพื่อให้คริสตชนคาทอลิกได้รับทราบว่าในช่วงเวลาใดมี
พิธีกรรมอะไร และผนวกกับพระวรสาร บทอ่านไหน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคริสตชนในการศึกษา
และเข้าถึงพระเจ้าได้ง่ายขึ้น และเข้าใจในบทอ่านและพระวาจาของพระเจ้า

ตัวอย่างไบเบิ้ลไดอารี่
http://www.thaicatholicbible.com/main/c ... diary-2012

:s004:
พระคำภีร์มอรมอน(The Book of Mormon)

รูปภาพ
กลุ่มมอรมอนมีความเชื่อ และมีคัมภีร์เป็นของตนเอง ซึ่งเชื่อว่าคัมภีร์ของตนเองแปลมาอย่าง
ถูกต้อง ที่เราเห็นฝรั่งชาวอเมริกาขี่จักรยานใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว นั่นแหละครับพวกนี้มาจาก
มลรัฐยูทาห์ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาประกาศตามความเชื่อของตนเอง ...ผมไม่ได้ศึกษา
ลึกซึ้ง คุณเมจิ ลองอ่านตาม Link ด้านล่างนะครับ

รายละเอียดของมอรมอน
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1% ... D%E0%B8%99

คัมภีร์มอรมอน ลองอ่านตามนี้นะครับ
http://scriptures.lds.org/tha/bm/contents

:s021:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์
แก้ไขล่าสุดโดย peopletribune เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2012 5:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 6 ครั้ง.
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 4:09 pm

s.gabriel เขียน:สวัสดีคุณพี่ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ ตอบได้ละเอียดดีครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เด็กๆรุ่นหลังได้รับความรู้หลายๆเรื่อง ที่ไม่เคยรู้ครับ
สวัสดีครับ คุณs.gabriel

ด้วยความยินดีครับ พระหรรษทานและองค์ความรู้ต่าง ๆ ผมก็ได้มาจากการประทานของพระ
ซึ่งสิ่งใดที่สามารถทำประโยชน์เพื่่อคริสตชน และทุกศาสนิก และชาติบ้านเมือง ก็ยินดีครับ
:s023:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 5:19 pm

peopletribune เขียน:
เมจิ เขียน:คือเมจิสังสัยว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ไบเบิ้ลไดอารี่ พระคำภีร์มอรมอน ไขมุกอันลํ้าค่า
มันมีความเเตกต่างกันหรือไม่ค่ะช่วยอธิบายทีค่ะ :s002:
สวัสดีคุณเมจิ อีกครั้ง ครับ

คัมภีร์ไบเบิ้ล นั้นเป็นชื่อเรียก หนังสือที่รวมรวมเรื่องตั้งแต่สมัยพระเจ้าสร้างโลก คำทำนายของ
ประกาศกต่าง ๆ และเหตุการณ์ในสมัยที่พระเยซู ยังมีพระชนม์ชีพ และการเผยแพร่ศาสนาของอัครสาวก เราแยกเป็นภาคพระธรรมเก่า กับ ภาคพระธรรมใหม่

- ภาคพระธรรมเก่า คือ สมัยก่อนพระเยซูประสูติ ตั้งแต่พระเจ้าสร้างโลก อิสราเอลอพยพ
ประกาศกประกาศข่าวดี ฯลฯ จะมีเป็นเรื่อง ๆ เช่น ปฐมกาล,กันดารวิถี,ปรีชาญาณ,บุตรสิรา,
อิสยาห์,เยะรมีห์ เป็นต้น

- ภาคพระธรรมใหม่ คือ ยุคสมัยพระเยซู และหลังพระเยซูทรงถูกตรึงกางเขนและกลับเป็นขึ้นมา ซึ่งบันทึกโดยอัครสาวกของพระเยซู เช่น นักบุญมัทธิว,มาระโก,ลูกา,ยอห์น,กิจการอัครสาวก ฯลฯ

รายละเอียดเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิ้ล
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84% ... 4%E0%B8%A5

ไบเบิ้ลไดอารี่ เป็นไดอารี่ ที่ออกทุกปีเพื่อให้คริสตชนคาทอลิกได้รับทราบว่าในช่วงเวลาใดมี
พิธีกรรมอะไร และผนวกกับพระวรสาร บทอ่านไหน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคริสตชนในการศึกษา
และเข้าถึงพระเจ้าได้ง่ายขึ้น และเข้าใจในบทอ่านและพระวาจาของพระเจ้า

ตัวอย่างไบเบิ้ลไดอารี่
http://www.thaicatholicbible.com/main/c ... diary-2012

พระคำภีร์มอรมอน(The Book of Mormon)

รูปภาพ
กลุ่มมอรมอนมีความเชื่อ และมีคัมภีร์เป็นของตนเอง ซึ่งเชื่อว่าคัมภีร์ของตนเองแปลมาอย่าง
ถูกต้อง ที่เราเห็นฝรั่งชาวอเมริกาขี่จักรยานใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว นั่นแหละครับพวกนี้มาจาก
มลรัฐยูทาห์ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาประกาศตามความเชื่อของตนเอง ...ผมไม่ได้ศึกษา
ลึกซึ้ง คุณเมจิ ลองอ่านตาม Link ด้านล่างนะครับ

รายละเอียดของมอรมอน
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1% ... D%E0%B8%99

คัมภีร์มอรมอน ลองอ่านตามนี้นะครับ
http://scriptures.lds.org/tha/bm/contents

:s021:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์[/quote

คุณpeopletribuneสุดยอด อธิบายได้ลึกซึ้งมากๆค่ะ ::039::
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 5:21 pm

เมจิ เขียน:คุณpeopletribuneสุดยอด อธิบายได้ลึกซึ้งมากๆค่ะ ::039::
ขอบคุณคร๊าฟฟฟ... :s007:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 6:05 pm

เมจิอยากจะถามว่า ทศษฎีของชานดาวิดที่บอกว่ามนุษย์มีต้นกำเนิดมาจากลิง

หรือพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ อันไหมที่ถูกต้องค่ะอันนี้งงมากๆค่ะ :s030:
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 6:42 pm

เมจิ เขียน:เมจิอยากจะถามว่า ทศษฎีของชานดาวิดที่บอกว่ามนุษย์มีต้นกำเนิดมาจากลิง

หรือพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ อันไหมที่ถูกต้องค่ะอันนี้งงมากๆค่ะ :s030:
สวัสดี อีกครั้ง ครับ คุณเมจิ

รูปภาพ
ชาลส์ ดาร์วิน เขียนเรื่อง "กำเนิดสรรพชีวิต" หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า The Origin of Species
ซึ่งเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของชาลส์ ดาร์วิน ตีพิมพ์ราว พ.ศ . 2402 ตรงกับไทยในรัชสมัย
ของรัชกาลที่ 4 ชาลส์ ดาร์วิน เป็นนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ

ผมได้เรียนกับทุกท่านเวลาตอบคำถามบ่อย ๆ ว่า ศาสนาที่เชื่อในพระเจ้า นั้นเป็นหลัก เทวนิยม
เช่น ศาสนาคริสต์,ยิว,ฮินดู,อิสลาม,ซิกส์ หรือพุทธวัชรยาน หรือแม้แต่พุทธ เถรวาท แบบ
บ้านเราก็ดี คุณเมจิ จะเอาหลัก เทวนิยม มาเปรียบกับหลักวิทยาศาสตร์ หรือหลักปรัชญา
นั้นหาได้ไม่ รังแต่จะถกเถียงกัน อย่างไม่รู้จบสิ้น และเหตุการณ์ถก เถียงกันทางการเมืองอย่าง
ศาสนาอย่าง มิบังควรจุดประเด็น เพราะที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์เรามีให้เห็นมากมาย เช่น กรณี
สงครามคูเสด หรือกรณีเขมรแดง

รูปภาพ
เช่น มีข้อสงสัยว่าพระแม่มารีย์เป็นหญิงพรมจรรย์ แล้วปฏิสนธิพระกุมารเยซูได้อย่างไร แต่ในทาง
คริสต์คาทอลิกเราเชื่อว่า แม่พระ "ปฏิสนธินิรมล"....

:s004:

ท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านปาฐกถาธรรม ไว้ดีมาก เรื่องคริสตธรรม-พุทธธรรม ท่านได้กล่าวถึงว่า
ทั้งทางไบเบิ้ลและพระไตรปิฏก มี "ภาษาคน" และ "ภาษาธรรม" ผมอยากให้คุณเมจิ
ลองอ่านดูนะครับ

http://www.buddhadasa.com/BudChrist/Beunderstand1.html

รูปภาพ
ผมมีพระวารสารตอนหนึ่ง ที่จะทำให้คุณเมจิ มีความเชื่อในพระเจ้า มากขึ้น...คือเรื่องของ
นักบุญโทมัส หลังจากพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และกลับฟื้นคืนชีพ พระองค์ทรง
ปรากฏกายแก่พวกเหล่าอัครสาวก เมื่ออัครสาวกได้พบพระองค์ได้กล่าวกับนักบุญโทมัสว่า...
" เราได้พบพระเยซูเจ้าแล้ว " (ยน. 20 : 35)

นักบุญโทมัสตอบว่า "ข้าพเจ้าไม่เชื่อ จนกว่าข้าพเจ้าจะได้เอานิ้วสอดเข้าไปในบาดแผลตะปู
ที่พระหัตถ์และพระสีข้างของพระองค์ "


หลังจากนั้น 8 วัน ขณะที่นักบุญโทมัสอยู่กับเหล่าอัครสาวก พระเยซูเจ้าเสด็จมาประทับยืนต่อหน้า
ท่าน แล้วตรัสแก่โทมัสให้เอานิ้วและนิ้วสัมผัส ที่สีข้างของพระองค์ พลางตรัสว่า
"อย่าขาดความเชื่อเลย จงเชื่อเถิด" (ยน. 20 : 27 )

นักบุญโทมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า”

พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อ แม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข”
แก้ไขล่าสุดโดย peopletribune เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2012 7:53 pm, แก้ไขไปแล้ว 4 ครั้ง.
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 7:26 pm

ขอบคุณคุณ peopletribune มากค่ะอธิบายได้ย้อนเหมือนกับไปโลกประวัติศารสต์เลย :s015:
ตอนนี้เชื่อในพระเจ้ามากขึ้นเเล้วค่ะ :s015:
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 7:48 pm

เมจิ เขียน:ขอบคุณคุณ peopletribune มากค่ะอธิบายได้ย้อนเหมือนกับไปโลกประวัติศารสต์เลย :s015:
ตอนนี้เชื่อในพระเจ้ามากขึ้นเเล้วค่ะ :s015:
ยินดี ครับ... :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 9:27 pm

ขอบคุณมากที่แบ่งปันค่ะ ตามอ่านทุกคำตอบค่ะ.... :s021:
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ มี.ค. 05, 2012 9:46 pm

rosa-lee เขียน:ขอบคุณมากที่แบ่งปันค่ะ ตามอ่านทุกคำตอบค่ะ.... :s021:
ขอบคุณ คุณrosa-lee เช่นกันครับที่ติดตาม

แหม...พักหลังที่แฟน ๆ ชักเยอะ...ยินดีครับ ที่ความรู้ และประสบการณ์ของผม เป็นประโยชน์
กับ ชาว newmana นะครับ มีอะไรให้รับใช้ก็ยินดี ครับ!
:s007:
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

อังคาร มี.ค. 06, 2012 9:42 pm

ที่จริง พระเยซูทรงมีอีกพระนามว่า Amen นะครับ
วว.3:14
ฉนั้น ใครชอบ เอเมนเล่นๆ เป็นเรื่องตลก ผมว่าไม่ค่อยควรเท่าไหร่เลย

ส่วนเรื่องวิวัฒนาการ ลองอ่าน กระทู้ viewtopic.php?f=2&t=10548 ดูครับ ผมว่าชัดเจนและดีมากๆ
ปล. อิมมานูเอล
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ มี.ค. 07, 2012 9:17 am

ได้ข้อมูลที่ไม่เคยรู้จักเเละ ::045:: เดียวจดๆๆ ::047::

ป.ล อิมานูเอล เเปลว่าพระเจ้าสถิตกับ เรา หรือสถิตกับ ท่าน ค่ะ :s030:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

พุธ มี.ค. 07, 2012 2:25 pm

รายละเอียด ชัดแจ้ง แจ่มแจ๋วไปเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

พฤหัสฯ. มี.ค. 08, 2012 1:54 pm

ขอบคุณมากค่า ตอบได้ชัดเจนสุดๆ เลย :s002:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 8:04 am

คุณนมเมจิ จำง่ายๆ คริสตังจบคำภาวนาด้วย "อาแมน" ส่วนโปรเตสแตนต์ จบคำภาวนา ด้วย "อาเมน" เพราะมาจากพื้นฐานมิชชันารีแพร่ธรรม ยุคแรกๆ มาจาก สหรัฐฯ เลยออกเป็นเสียงภาษาอังกฤษ

ส่วนพระคัมภีร์เก่า Old Testament และ พระคัมภีร์ใหม่ New Testament ที่คุณพี่ณัฐวุฒิ เดินไปทุกที่ได้อธิบายชัดแจ๋วแล้ว อย่างไรก็ตามน้องเจี๊ยบอยากจะแสดงภูมินิดหนึ่ง ว่า มีการแยกสารบบพระคัมภีร์ ออก 2 สาย สายอเล็กซานเดีย เป็นพวกหัวใหม่/หัวเสรี แบ่งพระคัมภีร์เก่า ออก 2 สารบบ สารบบที่ 1
มี 39 เล่ม และสารบบที่ 2 มี 7 เล่ม ดังนั้นพระคัมภีร์เก่าของคริสตัง ออร์เทอดอกซ์ มี 46 เล่ม
และอีกสารบบคือสารบบปาเลสไตน์ พระคัมภีร์เก่า จะมีแต่สารบบที่ 1 39 เล่ม ซึ่ง อดีตบาทหลวงมาร์ติน
ลูเทอ เมื่อแยกออกจาก พระศาสนจักร ก็เลือกใช้สารบบปาเลสไตน์ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 9:08 am

อ.ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา ท่านเคยบอกว่า "อาแมน" เป็นสำเนียงบ้านนอก เพราะมิชชันนารีส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากเมืองหลวง ถ้าสำเนียงที่มาจากเมืองหลวงจะเป็น "อาเมน" รวมทั้งคำอื่น ๆ ด้วยที่ "โยเซฟ หรือ ยอแซฟ"
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 10:51 am

ขอบพระคุณค่า เเล้วตกลงเค้าใช้อาไรกันเเน่ค่ะ อาเเมนหรือเอเมนค่ะ :s008: ขอเเบบสรุป :s007:
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 10:53 am

อิมานูเอล เเปลว่าพระเจ้าสถิตกับ เรา หรือสถิตกับ ท่าน ค่ะ
Immanuel
'God is with us',the name of Isaiah's child(Isa. 7:14). See also Emmanuel

จาก Oxford Bible Dictionary ครับ ^^
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 11:45 am

เมจิ เขียน:ขอบพระคุณค่า เเล้วตกลงเค้าใช้อาไรกันเเน่ค่ะ อาเเมนหรือเอเมนค่ะ :s008: ขอเเบบสรุป :s007:
คุณเมจิ ครับ

ความเห็นส่วนตัวผม ใช้ได้ทุกคำครับ เพราะเรากล่าวออกมาจาก "ใจ" พระกับมนุษย์สื่อสาร
กันผ่านทางความเชื่่อและจิตใจ....ต่อให้กล่าวคำว่า อาแมน เสียงดังแค่ไหน แต่พระเจ้า
ไม่ได้นั่งในใจคนผู้นั้น...ก็หาเข้าถึงพระเจ้าไม่
ตอบกลับโพส