“ บทเทศน์เรื่องสายประคำ “ 4 เรื่อง

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 05, 2020 3:17 pm

บทเทศน์เรื่องสายประคำ

โดยพระสังฆราชฟินน์ (ออกอากาศสถานี EWTN), แปลและย่อเรื่องโดย กอบกิจ ครุวรรณ

วันทามารีอา! ความรอดของมนุษยชาติเริ่มต้นเมื่อพระนางมารีย์ตอบรับสาร ของอัครเทวดาคาเบรียล :
วันทามารีอา! นี่คือคำพูดที่เราตอบรับซ้ำการเชื้อเชิญของแม่พระ เรายืนหยัดที่จะสวดสายประคำด้วยความวางใจ เพราะพระแม่ทรงเป็นพระมารดาของพระเจ้าและเป็นมารดาของเราตามแผนการพระเมตตาของพระบิดา พระแม่ผู้ประทานพระผู้ไถ่ปรารถนาให้เรารู้จักและรักพระบุตรของพระนาง รหัสธรรมต่าง ๆ ของแม่พระ ของพระเยซูเจ้าและของชีวิตเรา มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด รหัสธรรมการรับเอากายของพระเยซูคริสต์ เป็นการเชื่อมโยงพระองค์กับมนุษย์แต่ละคน และเป็นการเผยแสดงให้เราทราบถึงความเป็นมนุษย์และเสียงเรียกของพระองค์ที่ทรงมีต่อเรามนุษย์ (Gaudium et Spes, No. 22)
สายประคำของพระนางมารีย์เป็นเหมือนหนังสือภาพแห่งความเชื่อ ความหวังและความรัก สายประคำจึงเป็นภาพที่แสดงถึงชีวิตของพระคริสตเจ้า ในความชื่นชมยินดีของความรักที่เบ่งบาน, ในความเศร้า และในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ พระองค์ผู้ทรงเตรียมทุกสิ่งสำหรับอนาคตของเรา พระประสงค์ของพระเจ้าเผยแสดงออกในชีวิตของพระคริสต์, ของพระนางมารีย์ และในชีวิตของเรา พระนางมารีย์จะทรงช่วยเราตอบ “ตกลง” และยินดีร่วมกระทำตามแผนการของพระองค์
ทุกครั้งที่เรากล่าวซ้ำชื่อแม่พระขณะสวดสายประคำ พระนางก็จะทรงนำเรารำพึงและเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นถึงพระเยซูเจ้าและสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อเราแต่ละคน ที่สำคัญที่สุดคือพระนางปรารถนาให้เราเข้าใจถึง เหตุผลของการรับเอากาย, การเทศน์สอน, การสิ้นพระชนม์ และการเสด็จกลับเป็นขึ้นมาของพระบุตร ซึ่งเป็นแผนการนิรันดร์แห่งพระเมตตาของพระบิดาที่ไม่มีผู้ใดหยุดยั้งได้ เพราะเป็นพลังแห่งความรักของพระเจ้าที่ทรงรักมวลมนุษย์มากจนถึงกับทรงยอม สละพระบุตรของพระองค์ (ยน. 3:16)
พระนางมารีย์ผู้ “เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน” อยู่ใกล้ชิดและติดตามพระบุตรด้วยความเชื่อที่มั่นคง พระนางทราบถึงความชื่นชมยินดีตั้งแต่เมื่อได้รับสารจากเทวทูต พระนางเริ่มเห็นผู้จะเป็นพระบุตรและพระมหาสงฆ์ พระนางร่วมในความเศร้าโศกกับพระองค์ และเมื่อพระนางอยู่ร่วมกับพระองค์ในความรุ่งโรจน์แห่งสวรรค์ พระองค์ก็ได้ทรงแต่งตั้งให้พระนางเป็นพระราชินีของชาวเรา พระองค์ทรงแสดงวิธีการที่พระศาสนจักรสามารถเลียนแบบพระนางและการเข้าสู่ สวรรค์ของเรา --- สายประคำจึงเป็นเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถนำเราทุกคนที่ยึดมั่นในการสวด สายประคำให้อยู่ใกล้ชิดพระคริสตเจ้ามากยิ่งขึ้นโดยผ่านทางพระนางมารีย์
ยิ่งกว่านั้น สายประคำยังเป็นอาวุธของชีวิตจิต คำภาวนาและคำเสนอวิงวอนของแม่พระทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง การสวดสายประคำเป็นมากกว่าเสียงสะท้อนเรื่องราวในพระคัมภีร์ แต่เป็นเสียงร้องของเราจริง ๆ พระนางมารีย์ได้ยินเสียงที่เราสวดนี้เป็นคนแรกจากปากของอัครเทวดาคาเบรียล “วันทามารีอา ผู้เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน!” และดังนั้นพระนางผู้ตอบรับเสียงนั้นกับเทวทูตฯ ด้วยความรักและนำพระผู้ไถ่มาสู่โลก จะปฏิเสธไม่บินมาหาลูกหรือเมื่อพวกเขาร้องเรียกพระนาง ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือในยามค่ำคืนที่มืดมน? วันทามารีย์ โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตายเทอญ !
เราทราบเรื่องการสู้รบที่เลปังโตในปี 1571 แล้วว่า ขณะที่กองทัพคริสตังที่มีกำลังน้อยกว่ามากและดูเหมือนจะสิ้นหวังนั้น พวกเขาได้ตอบรับข้อเสนอของสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 5 ในการสวดสายประคำโดยพร้อมเพรียงและมีชัยในการบ พระนางมารีย์ พระราชินีแห่งสายประคำทรงมีชัยในการรบและช่วยให้ยุโรปไม่ถูกเติร์กยึดครอง
ในการต่อสู้ในชีวิตประจำวันของเรา พระนางมารีย์จะไม่ได้ยินเสียงร้องของเราหรือ? พระนางได้ยินเสียงสวดสายประคำของเราแต่ละคนเป็นภาษาต่าง ๆ ทั่วโลก -- พวกเรายึดมั่นในการสวดสายประคำกันอยู่หรือ? จงสวดทุกวันและบ่อย ๆ สวดด้วยกันในครอบครัว? ทุกครอบครัวมีปัญหา จงอย่าลืมสวดวอนขอความรักฉันมารดาและความช่วยเหลือจากพระนางมารีย์ โปรดทำให้บ้านของเราศักดิ์สิทธิ์ โปรดปกป้องกระแสเรียกการแต่งงาน และให้ครอบครัวเป็นศูนย์กลางของสังคม
ข้าแต่พระนางมารีย์ เราจะไม่ทอดทิ้งลูกหลานที่รักของเรา แต่เราทราบว่าศัตรูแห่งความชั่วร้ายก็ไม่ยอมแพ้โดยง่ายเช่นกัน ข้าแต่พระแม่แห่งสายประคำ พระแม่แห่งชีวิต โปรดประทานชัยชนะแก่เราในการต่อสู้ที่ลำพังแต่เราไม่สามารถเอาชนะได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพระนาง
เพื่อนที่รัก, ลูก ๆ ของพระแม่, พระสงฆ์และนักบวช นี่คือมารดาของเราผู้ทรงเป็นพระราชินีแห่งสวรรค์และโลก ข้าแต่พระบิดาผู้ทรงกำหนดแผนการให้พระนางเป็นผู้ประทานพระบุตรผู้ทรงกอบกู้ ชาวเรา ณ บัดนี้ขอพระองค์โปรดให้พระนางนำเราสู่ความรอด และกลับคืนสู่อ้อมอกของพระองค์ด้วยเทอญ
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ จันทร์ ต.ค. 12, 2020 2:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ต.ค. 06, 2020 11:33 pm

......หัวใจหยุดเต้น 6 ครั้ง.....
เรื่องจริงเล่าโดย Barbara L. Barlow เมือง Reynoldsburg รัฐโอไฮโอ จากหนังสือ 101 Inspirational Stories of the Rosary” เรื่อง “Six Cardiac Arrests”
สามีของดิฉันเป็นตำรวจปลดประจำการหลังจากที่ได้ทำงานมา 32 ปี ในเดือนตุลาคม ค.ศ.2000 เรากำลังไปพักผ่อนที่น้ำตกไนการ่า คานาดา และถือโอกาสเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งที่นั่นด้วย ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนถึงคืนสุดท้ายก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน สามีของดิฉันเกิดป่วยเป็นโรคหัวใจหยุดเต้นถึง 6 ครั้งในห้องพักของโรงแรม คณะผู้ช่วยแพทย์ของโรงแรมมาถึงภายใน 3 นาที พร้อมกับเครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า หลังจากนั้นก็ส่งตัวสามีดิฉันไปโรงพยาบาลซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า ดิฉันคงไม่สามารถพาสามีที่มีชีวิตกลับบ้านได้
ดิฉันเริ่มสวดขอพระเยซูคริสต์และคุณพ่อปีโอให้ดิฉันมีโอกาสอยู่กับสามีอีกสักระยะหนึ่ง ดิฉันรู้สึกแปลกใจเมื่อสามีดิฉันขอพบพระสงฆ์ และรอถึงวันรุ่งขึ้นก่อนจะมีพระสงฆ์องค์หนึ่งมาโปรดศีลเจิมให้สามี
10 วันต่อมา สามีก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้านได้ เมื่อกลับถึงบ้าน สามีดิฉันแจ้งว่าจะไปฟังมิสซาด้วยหลังจากที่ได้ทิ้งวัดไปนานกว่า 40 ปี ดิฉันรู้สึกเป็นสุขมาก และดูสิ ตอนนี้สามียังขอให้ดิฉันหาสายประคำให้ด้วย
ท่านผู้อ่านคงนึกภาพความงามไม่ออกขณะที่ดิฉันมองดูสามีเดินเข้าวัดเพื่อไปร่วม พิธีบูชาขอบพระคุณ คิดดูสิ สามีดิฉันกำลังสวดสายประคำอย่างซื่อ ๆ ด้วยความจริงใจ ดิฉันดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แม้กระทั่งขณะที่กำลังเขียนเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
ดิฉันคิดว่า พระองค์ทรงสดับฟังคำภาวนาของสามีที่สวดด้วยหัวใจ ที่เปี่ยมด้วยความรัก ดูเหมือนว่าบางครั้งพระองค์ทรงต้องเคาะศีรษะของเราเพื่อให้เรารู้สำนึก ดิฉันสำนึกในพระพรที่ได้รับสำหรับช่วงเวลาที่เราได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันอีก ดิฉันหวังว่าพระองค์จะประทานเวลาให้เราอยู่ด้วยกันอีกนานทีเดียว เพราะพระองค์และพระมารดาไม่เคยปล่อยให้กิจการที่กระทำอยู่สำเร็จเพียงครึ่งเดียว
****************
แปลเเละเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 12, 2020 2:25 pm

........อย่ายอมแพ้...........
เรื่องจริงเล่าโดย Carolyn D. Susin เมือง Martinez รัฐแคลิฟอร์เนีย จากหนังสือ 101 Inspirational Stories of the Rosary” เรื่อง “Don’t Give Up”

เราแต่งงานมาได้ 10 ปีแล้วแต่ยังไม่มีบุตร 6 ปีแรกหลังการแต่งงาน ทุกปีเราไปแสวงบุญในช่วงพักร้อนที่ประเทศอิตาลี และในการแสวงบุญปีที่ 6 ระหว่างที่เราอยู่ในวัดนักบุญมาร์โก เมืองฟลอเร้นซ์ มีพระสงฆ์องค์หนึ่งพูดกับเราเป็นภาษาอิตาเลียนว่า ดิฉันตั้งครรภ์ไม่ได้และแนะนำให้ดิฉันสวดขอพระกุมาร ดังนั้นดิฉันจึงได้ทำนพวารสวดขอพระกุมารแห่งกรุงปราก และทำนพวารวอนขอพระมารดานิจจานุเคราะห์
4 ปีต่อมา ดิฉันไปแสวงบุญกับกลุ่มคาทอลิกที่ประเทศไอร์แลนด์ ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน ดิฉันสวดสายประคำ 15 ทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันพยายามสวดอยู่ทุกวัน แต่ระหว่างที่สวดอยู่บนเครื่องบินวันนั้น ดิฉันหลับตาและเห็นทารกคนหนึ่งในครรภ์ ดิฉันรู้สึกตกตะลึง และเล่าเรื่องนี้ให้สามีภรรยาคู่หนึ่งที่เดินทางไปด้วยกัน ดิฉันหวังว่าสิ่งที่เห็นคงเป็นเครื่องหมายอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนัก อย่างไรก็ตาม หนึ่งเดือนครึ่งให้หลังดิฉันก็ได้ตั้งครรภ์จริง ๆ และต่อมาก็ได้ให้กำเนิดลูกชายชื่อ มาร์ค แอนโทนีซึ่งขณะนี้อายุได้ 8 เดือนครึ่ง
ดิฉันเป็นคนทำสายประคำและมีเรื่องเกี่ยวกับสายประคำที่ได้สัมผัสชีวิตของวัยรุ่น บางคนรวมทั้งพระสงฆ์องค์หนึ่งด้วย หลังจากที่เราแต่งงานได้ 1 ปี คุณพ่อเจ้าวัดได้ขอให้เราช่วยสอนนักเรียนที่เตรียมรับศีลกำลังซึ่งมีพระสงฆ์บวชใหม่องค์หนี่งสอนและดูแลอยู่
ขณะที่เรากำลังเตรียมเข้าเงียบค้างคืนให้นักเรียนวัยรุ่น 40 คนอยู่นั้น ดิฉันได้ตัดสินใจจะทำสายประคำด้วยมือให้นักเรียนแต่ละคน คุณพ่อโทนี่พระสงฆ์ผู้รับผิดชอบไม่สู้จะเห็นด้วยกับความคิดของดิฉัน และคิดว่าพวกนักเรียนคงไม่ชอบสายประคำกันนัก และยืนยันว่าตนมิใช่พระสงฆ์แนวแม่พระ อย่างไรก็ตามดิฉันยังคงดำเนินการต่อไปตามที่คิดไว้
ดิฉันสอนพวกเขาให้รู้จักวิธีการสวดสายประคำระหว่างการเข้าเงียบ พวกเขาตื่นเต้นกันมากและไม่เชื่อว่าดิฉันได้ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมง เพื่อทำสายประคำให้พวกเขา ค่ำวันนั้นมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งขอให้ดิฉันอยู่กับเธอต่อ เพื่อจะได้สวดสายประคำด้วยกันจนครบสาย เธอสวดตามแผ่นกระดาษหนังสือคู่มือทุกขั้นตอน เพราะเธอไม่เคยสวดสายประคำมาก่อน
สัปดาห์ต่อมา ไม่มีการสอนเรื่องศีลกำลังเพราะนักเรียนอยู่ระหว่างการเข้าเงียบ เราจึงไม่คาดว่าจะได้รับการติดต่อจากพระสงฆ์ อย่างไรก็ตาม ประมาณกลางสัปดาห์นั้นเอง ดิฉันได้รับโทรศัพท์ เป็นคุณพ่อโทนี่ที่โทรมา คุณพ่อโทรมาแต่ก็ไม่พูดอะไรจนดิฉันแปลกใจและถามท่านว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติ เกิดขึ้นหรือ คุณพ่อถามว่าดิฉันรู้จักนักเรียนชายคนหนึ่ง ที่อยู่ในชั้นเรียนนั้นหรือไม่ เมื่อดิฉันได้ยินชื่อของเขา ดิฉันก็ตอบว่ารู้จักดี ท่านจึงพูดต่อไปว่า เขาประสบอุบัติทางรถยนต์ ดิฉันจึงถามคุณพ่อว่าเขาอยู่ในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตไปแล้ว
คุณพ่อโทนี่อึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “ก็เพราะเรื่องนี้แหละ... พ่อจึงรีบโทรหาเธอทันทีที่ทราบข่าวอุบัติเหตุ เรื่องก็คือเด็กคนนั้นอยู่ในรถกับเพื่อนวัยรุ่นอีก 3 คนขณะเกิดเหตุ รถพังทั้งคันแต่เด็กทั้งสี่คนเดินออกจากรถได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย” จากนั้นคุณพ่อก็พูดต่อว่า “พวกเขาบอกพ่อว่า คุณพ่อครับ ตอนนั้นผมมีสายประคำอยู่ด้วย”
นักเรียนคนนั้นรู้สึกว่าจะต้องโทรศัพท์แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อโทนี่ทราบทันที โดยเฉพาะต้องบอกให้คุณพ่อทราบว่า เขามีสายประคำอยู่กับตัวด้วย คุณพ่อโทนี่ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ดิฉันคิดว่าสายประคำและพระนางมารีย์คงได้เปลี่ยนความคิดของคุณพ่อตั้งแต่วันนั้น
*****************
แปลเเละเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 12, 2020 2:28 pm

........ความศรัทธาเหนือหมู่เมฆ......
เรื่องจริงเล่าโดย John W. Duiker เมือง Narre Warren South รัฐวิคตอเรีย ออสเตรเลีย จากหนังสือ 101 Inspirational Stories of the Rosary” เรื่อง “Devotion above the Clouds”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในเดือนมิถุนายน 2002 ผมเพิ่งแต่งงานที่ออสเตรเลียและได้วางแผนที่จะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ในลักษณะ ของการแสวงบุญที่เมดูกอร์เจและที่ลูร์ด นับเป็นพระพรสูงส่งที่สามารถใช้เวลาวิเศษเช่นนี้ในพระหัตถ์ของพระเยซูคริสต์ ภายใต้การชี้นำของพระมารดา การใช้เวลาในสถานที่แสวงบุญ ทั้งสองช่วยเพิ่มความศรัทธาการสวดสายประคำกับเราทั้งสองเป็นอย่างมาก
ระหว่างเที่ยวบินขากลับจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ตไปยังสิงคโปร์นั้นใช้เวลาบิน 13 ชม. ผมรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เพราะเป็นคนสูง 185 ซม. และได้ที่นั่งตรงกลาง ด้านซ้ายเป็นที่นั่งของภรรยาที่ติดกับหน้าต่าง ด้านขวาเป็นสุภาพบุรุษร่างยักษ์ที่นั่งอยู่ติดกับทางเดินกลางเครื่อง ผมนั่งกระสับกระส่ายอดรนทนไม่ไหวและหันไปกระซิบกับภรรยาว่า “ผมคิดว่าผมคงจะทนอยู่ในสภาพเช่นนี้นานถึง 13 ชั่วโมงไม่ไหวเป็นแน่!”
ภรรยาผมไม่ตอบอะไร เธอใช้มือหยิบสายประคำจากกระเป๋าถือและเริ่มสวดให้ผม ผมทำตามโดยเอาสายประคำออกมาสวดบ้างเพื่อสวดขอให้รู้สึกว่ามีอากาศหายใจได้บ้าง
หลังจากสวดไปได้ 10 เม็ดแรก ก็รู้สึกว่าความเครียดได้อันตรธานหายไปและมีจิตใจที่สงบ ผมสวดขอให้สุภาพบุรุษที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอาแขนที่วางทาบติดอยู่กับไหล่และหน้าอกของผมออกไป หนุนที่ด้านหลังศีรษะของเขา ซึ่งผลก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลังจากนั้นผมก็สวดขอแม่พระให้เขาเอาเท้าที่ยาวเก้งก้างออกไปจากที่วางเท้า ของผมด้วย ซึ่งไม่นานต่อมาเขาก็เปลี่ยนท่าเป็นเอาขาออกไป ยังบริเวณทางเดินกลางเครื่องโดยที่ยังใช้แขนหนุนศีรษะอยู่
ผมหันไปยิ้มให้ภรรยาอย่างเป็นสุข และเราทั้งสองก็ได้สวดถวายเกียรติแด่พระเยซูคริสต์โดยผ่านทางแม่พระขณะที่เรากำลังบินอยู่เหนือก้อนเมฆ
*********************
แปลเเละเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
ตอบกลับโพส