+การสวดสายประคำความปีติยินดี 7 ประการของพระนางพรหมจารีมารีย์

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
Divine Mercy

เสาร์ ก.ย. 17, 2005 7:34 pm

ความปีติยินดี 7 ประการของพระนางพรหมจารีมารีย์
การสวดสายประคำนี้ย้อนกลับไปช่วงปีค.ศ. 1422 มีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนที่เคร่งครัดในศาสนามาก เขาถวายพวงมาลาดอกไม้สดต่อรูปปั้นของพระนางมารีย์พรหมจารีทุกวัน ต่อมาหลังจากที่ชายหนุ่มเข้ามาอยู่ในคณะ Franciscan แล้วก็ถูกห้ามมิให้ทำความเคารพในลักษณะดังกล่าว เขาเสียใจเป็นอย่างมากจึงตัดสินใจที่จะออกจากคณะ Franciscan ขณะนั้นเองพระนางมารีย์ประจักษ์แก่ชายหนุ่มแล้วกล่าวแก่เขาว่า “อย่าได้เศร้าใจไปที่เจ้าไม่ได้ถวายพวงมาลาดอกไม้ที่รูปปั้นของเรา และอย่าออกจากคณะ Franciscan เราจะสอนให้เจ้าภาวนาถึงเราแทน เรียกว่า ความปีติยินดี 7 ประการ เมื่อพระนางมารีย์จากไปแล้ว ชายหนุ่มดีใจเป็นอย่างมากและเริ่มภาวนา ขณะที่ชายหนุ่มภาวนาอยู่นั้น หัวหน้าของชายหนุ่มเดินผ่านมา เขาได้เห็นทูตสวรรค์กำลังร้อยพวงมาลากุหลาบอย่างน่าพิศวง หลังจากที่ร้อยกุหลาบ 10 ดอกแล้ว ทูตสวรรค์ได้แทรกดอกลิลลี่สีทอง 1 ดอก เมื่อร้อยพวงมาลาเสร็จ ทูลสวรรค์ได้นำพวงมาลานั้นวางบนศีรษะของชายหนุ่มที่กำลังสวดภาวนาอยู่ เมื่อเห็นดังนั้นหัวหน้าของชายหนุ่มจึงขอร้องให้ชายหนุ่มอธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าวที่เขาได้เห็นมา การสวดสายประการ Seven Joys จึงได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาของคณะนักบวช Franciscan

กิจศรัทธาต่อความปีติยินดี 7 ประการของพระนางพรหมจารีมารีย์
* สายประคำความปีติยินดี 7 ประการ ของพระนางพรหมจารีมารีย์
** การรำพึงความปีติยินดี 7ประการของพระนางพรหมจารีมารีย์


รูปภาพ

การสวดสายประคำของนักบวชคณะฟรังซิสกัน มีวิธีการสวดหลายวิธีแต่ที่นิยมโดยทั่วไป คือ

เริ่มต้นที่เม็ดใหญ่ เม็ดแรก สวดบทข้าแต่พระบิดา
เม็ดเล็กสามเม็ด สวดบทวันทามารีอา
เม็ดใหญ่ของแต่ละทศสวดบทสิริพึงมี แลเริ่มอ่านข้อรำพึงและบทภาวนา และสวดบทข้าแต่พระบิดา
จากนั้นเม็ดเล็กสิบเม็ดสวดบทวันทามารีอา

*** สายประคำนี้จะมีอยู่เจ็ดทศ ( 1 ทศ มี 10 เม็ด) รวมแล้วเราจะสวดบทข้าแต่พระบิดา 8 ครั้ง และบทวันทามารีอา 73 ครั้ง
*** ข้อรำพึงการสวดสายประคำสามารถใช้ร่วมกับข้อรำพึงต่อไปนี้ได้


*******************************************************************************************************
ข้อรำพึงความปีติยินดี 7ประการของพระนางพรหมจารีมารีย์
รูปภาพ
ข้อรำพึงที่หนึ่ง / ความปีติยินดีประการที่หนึ่ง ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีมารีย์ทรงปีติยินดีที่พระเยซูเจ้าทรงปฏิสนธิในพระครรภ์ด้วยเดชะพระจิต

พระนางทรงตอบรับด้วยความปีติยินดีว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นทาสีของพระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเป็นตามคำของท่าน” (ลูกา 1:38)

เมื่อพระนางมารีย์รับแจ้งข่าวการบังเกิดของพระคริสตเจ้าจากอัครเทวดากาเบรียล พระนางทรงประหลาดใจยิ่งนัก และสงสัยว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ด้วยความสุภาพ ถ่อมตน และความรักที่พระนางทรงมีต่อพระเป็นเจ้าอย่างสิ้นสุดจิตใจ ได้แปรเปลี่ยนเป็นความปีติยินดี ทำให้พระนางไม่ลังเลพระทัยที่จะตอบรับพระประสงค์ของพระเจ้า หลายครั้งที่เราเกิดความไม่แน่ใจและอยากให้อะไรๆ เป็นไปดั่งใจของเรา เราจึงควรที่จะเลียนแบบฤทธิ์กุศลของพระนางมารีย์ที่จะน้อมรับพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อเราในทุกกรณี

โอ้พรหมจารีมารีย์ การตอบรับของพระแม่ต่ออัครเทวดากาเบรียลด้วยความปีติยินดีนั้น ทำให้แผนการณ์การไถ่กู้สำเร็จลง แสดงให้ลูกได้เห็นว่าลูกควรน้อมรับพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าที่มีต่อลูกด้วยความปีติยินดีเช่นกัน เพราะพรองค์ทรงเป็นความดีงาม และทรงนำมาซึ่งความปีติยินดีของข้ารับใช้ของพระองค์ เสมอ
(สายประคำสวดบทวันทามารีอา 10 จบ)
(การรำพึงสวดบทวันทามารีอา 1 จบ)
รูปภาพ
ข้อรำพึงที่สอง /ความปีติยินดีประการที่สอง ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีมารีย์ทรงปีติยินดีได้เสด็จเยี่ยมนักบุญเอลิซาเบธ

“ คราวนั้นพระนางมารีย์จึงรีบออกไปถึงเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแห่งยูเดีย แล้วเข้าไปในเรือนของศาคาริยาห์ทักทายกับนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ ทารกในครรภ์ของเขาก็ดิ้น และนางเอลีซาเบธก็เปี่ยมไปด้วยพระจิตเจ้า” (ลูกา 1:39-41)

เมื่อพระนางมารีย์และนักบุญเอลีซาเบธได้พบกันท่านทั้งสองก็เกิดความปีติยินดีอย่างท่วมท้น เนื่องจากพระนางมารีย์ทรงตั้งพระทัยที่จะมาเยี่ยมนักบุญเอลีซาเบธซึ่งเป็นญาติของพระนางเอง และนักบุญอลีซาเบธก็ยินดีที่ได้พบพระนางมารีย์ และกล่าวว่าสรรเสริญพระนางมารีย์ว่า “ท่านมีบุญกว่าหญิงใดใด และโอรสในครรภ์ของท่านทรงบุญนักหนา ไฉนข้าพเจ้าจึงได้รับความโปรดปรานเช่นนี้ คือมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้มาหาข้าพเจ้า” เมื่อพระนางได้ฟังดังนั้นก็ทรงปีติยินดียิ่งนักจึงสรรเสริญพระเป็นเจ้าที่ทรงประทานความชื่นชมยินดีให้ด้วยบทมักญีฟีกัต

โอ้พรหมจารีมารีย์ ผู้ทรงบุญกว่าหญิงใดใด พระโอรสของท่านทรงบุญยิ่ง โปรดให้ลูกได้มีโอกาสรับความชื่นชมยินดีที่พระแม่จะเมตตาเสด็จมาเยี่ยมลูกเช่นท่านนักบุญเอลีซาเบธ และโปรดช่วยลูกให้ได้ช่วยเหลือพี่น้องด้วยความปีติยินดีเช่นเดียวกับพระแม่เทอญ
(สายประคำสวดบทวันทามารีอา 10 จบ)
(การรำพึงสวดบทวันทามารีอา 1 จบ)
รูปภาพ
ข้อรำพึงที่สาม /ความปีติยินดีประการที่สาม ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีมารีย์ทรงปีติยินดีที่ได้มอบพระกุมารเยซูแก่โลก เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงประสูติ

“พระนางจึงประสูติบุตรชายหัวปี เอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่มีที่ว่างในโรงแรม” (ลูกา 2:7)

ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดบุตร สิ่งที่ยินดีที่สุดก็คือ การที่ได้เห็นบุตรของตนคลอดออกมาอย่างปลอดภัย สำหรับพระนางมารีย์แล้ว ความยากลำบากในการเดินทางและที่พักในยามที่จะประสูติกาล ไม่ได้ทำให้พระนางท้อ และเมื่อพระนางได้เห็นพระพักตร์ของพระบุตร ความปีติยินดีของพระนางจะมากมายสักเพียงใด พระนางทรงอิ่มเอมใจยิ่งนักที่ได้มอบพระบุตรผู้ทรงเป็นพระเจ้า พระมหาไถ่ให้แก่โลก

โอ้พรหมจารีมารีย์ พระมารดาพระเจ้า โปรดช่วยลูกให้รับการบังเกิดของพระคริสตเจ้าในชีวิตของลูกด้วยความเข้มแข็งและกล้าหาญ ให้ทุกคนได้เห็นพระคริสตเจ้าในตัวของลูก เพื่อคนทั้งหลายจะได้รู้จักและพึ่งพาพระองค์
(สายประคำสวดบทวันทามารีอา 10 จบ)
(การรำพึงสวดบทวันทามารีอา 1 จบ)
รูปภาพ
ข้อรำพึงที่สี่ /ความปีติยินดีประการที่สี่ ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีมารีย์ทรงปีติยินดีเมื่อได้ถวายพระกุมารเยซูแด่พระเป็นเจ้า

“เมื่อถึงกำหนดเวลาที่ต้องทำพิธีชำระตัวตามธรรมบัญญัติของโมเสส จึงนำพระกุมารไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่พระเป็นเจ้า” (ลูกา 2:22)

เหตุการณ์ในวันนี้นำมาซึ่งความปีติยินดีสำหรับพระนางมารีย์ เมื่อพระนางถึงกำหนดที่ต้องถือศีลชำระตามธรรมเนียมและต้องถวายพระกุมารแด่พระเป็นเจ้า พระนางทรงให้พระนามแด่พระบุตรว่า “เยซู” ตามที่อัครเทวดากาเบรียลได้แจ้งไว้ ดวงหทัยของพระนางทรงซาบซึ้งในพระเมตตาของพระเป็นเจ้าที่มีต่อพระนาง และบัดนี้พระนางได้นำพระบุตรมาถวายแด่พระเจ้าพระผู้สูงสุด ทุกอย่างจึงสำเร็จตามธรรมบัญญัติของพระองค์ที่ทรงกำหนดไว้

โอ้พรหมจารีมารีย์ ราชินีแห่งดวงใจ พระแม่ทรงปีติยินดีที่ได้ถวายพระบุตรแด่พระเจ้าสูงสุดและได้เรียกขานพระนามของพระบุตรนั้นว่าเยซู ช่างเป็นความชื่นชมยินดียิ่งนัก โปรดเสนอวิงวอนพระองค์เพื่อลูกจะได้เป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ ศักดิ์สิทธิ์และชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่ลูกจะได้กระทำเพื่อพระองค์
(สายประคำสวดบทวันทามารีอา 10 จบ)
(การรำพึงสวดบทวันทามารีอา 1 จบ)
รูปภาพ
ข้อรำพึงที่ห้า / ความปีติยินดีประการที่ห้า ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีมารีย์ทรงปีติยินดีที่พบพระเยซูเจ้าในพระวิหาร

“บิดามารดาเมื่อเห็นแล้วก็ประหลาดใจ พระมารดาจึงว่า ลูกเอ๋ย ทำไมทำแก่เราอย่างนี้ ดูเถิดพ่อกับแม่ตามหาเป็นทุกข์นัก” (ลูกกา 2:48)

ในความระทมทุกข์เมื่อพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟติดตามหาพระเยซูเจ้าเป็นเวลาหลายวัน เมื่อพบพระองค์ในพระวิหาร ความทุกข์นี้ได้หายไปในทันทีและได้เปลี่ยนเป็นความปีติยินดีเมื่อพระนางทรงพบพระบุตรสุดที่รัก ในชีวิตของเราทั้งหลายก็เช่นกัน โอกาสดีนี้มาถึงเราที่ได้พบองค์พระผู้ช่วยให้รอด เป็นความปีติยินดีที่จะกล่าวพร้อมกับพระนางมารีย์ว่า “เราพบพระองค์แล้ว” พระองค์ทรงประทับรอเราในศีลมหาสนิท รอเวลาที่เราจะไปหาพระองค์

โอ้พรหมจารีมารีย์ พระแม่ผู้กรุณา โปรดสดับฟังคำวิงวอนของลูก และโปรดช่วยลูกให้ได้พบพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอด โปรดให้ลูกมีจิตใจกระตือรือร้น ที่จะเข้าเฝ้าพระองค์ในศีลมหาสนิท ณ พระแท่นที่ประทับอันศักดิ์สิทธิ์ และขอเชิญพระองค์มาประทับในดวงใจของลูกด้วยเทอญ
(สายประคำสวดบทวันทามารีอา 10 จบ)
(การรำพึงสวดบทวันทามารีอา 1 จบ)
รูปภาพ
ข้อรำพึงที่หก / ความปีติยินดีประการที่หก ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีมารีย์ทรงปีติยินดีที่พระเยซูเจ้าทรงฟื้นคืนพระชนม์ชีพ

เมื่อมารีย์มักดาเลนได้มาถึงอุโมงค์และได้พบกับเทวทูตของพระเจ้า เทวทูตจึงกล่าวว่า “จงรีบไปบอกพวกสาวกของพระองค์เถิดว่า พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว...” (มัทธิว 28:7)

เมื่อพระนางมารีย์ ทราบข่าวการฟื้นคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้าพระบุตรสุดที่รักของพระนาง จากบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์ พระนางก็ทรงปีติยินดียิ่งนัก ที่ทรงเห็นพระบุตรกลับมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง การฟื้นคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้ามีความหมายสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ การเริ่มต้นแห่งชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณด้วยความรัก การแปรเปลี่ยนดวงใจเพื้อเริ่มต้นใหม่ในพระคริสตเจ้า

โอ้พรหมจารีมารีย์ พระมารดาแห่งสรวงสวรรค์ ราชินีแห่งสันติสุข โปรดโอบกอดลูกด้วยความรัก และให้ลูกมีความชื่นชมยินดีในการกลับคืนชีพ เพื่อลูกจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และรับใช้พระองค์
(สายประคำสวดบทวันทามารีอา 10 จบ)
(การรำพึงสวดบทวันทามารีอา 1 จบ)

รูปภาพ
ข้อรำพึงที่เจ็ด / ความปีติยินดีประการที่เจ็ด ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีมารีย์ทรงปีติยินดีที่ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์และรับสวมมงกุฏเป็นราชินีสวรรค์และแผ่นดิน

“มีหมายสำคัญใหญ่ยิ่งปรากฏในสวรรค์ คือ สตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า และบนศรีษะมีดาวสิบสองดวงเป็นมงกุฎ” (วิวรณ์ 12:1)

ในฐานะที่พระนางมารีย์ ทรงเป็นพระมารดาพระเจ้า พระนางจึงทรงได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้จากพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรและพระเจ้าสูงสุด ความรักที่ปราศจากเงื่อนไขที่พระนางทรงมีต่อพระเป็นเจ้า มงกุฎราชินีสวรรค์และแผ่นดินจึงเป็นรางวัลที่คู่ควรกับพระนาง

โอ้พรหมจารีมารีย์ ราชินีแห่งสวรรค์และแผ่นดิน ความปีติยินดีที่พระนางได้รับเป็นเกียรติสูงสุดที่พระองค์ทรงมอบแด่พระนาง ขอโปรดให้ลูกได้มีความชื่นชมยินดีเช่นพระนาง ณ วาระสุดท้ายชีวิตของลูกด้วยเทอญ
(สายประคำสวดบทวันทามารีอา 10 จบ)
(การรำพึงสวดบทวันทามารีอา 1 จบ)


เดชะความปีติยินดีที่พระนางมารีย์ได้รับ บันดาลความชื่นชมยินดีแด่ทุกคนที่มีความศรัทธาต่อพระนางด้วยเทอญ
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2005 2:08 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

เสาร์ ก.ย. 17, 2005 10:21 pm

ขอบคุณค่ะ มีภาพแม่พระสวยๆมาฝากค่ะ

รูปภาพ
วัน

ศุกร์ ก.ย. 23, 2005 3:41 pm

ขอพระมารีทรงเจริญเทอดอาแมน วันทามารีอา
Divine Mercy

อาทิตย์ ต.ค. 09, 2005 1:15 pm

ใครที่ไม่มีเวลาที่จะสวดสายประคำ

หรือต้องสวดสายประคำหลักอยู่แล้วก็มารำพึงก็ได้นะครับ

ขอแม่พระอวยพระพรทุกคนที่รักและศรัทธาต่อพระแม่ด้วยเทอญ
ภาพประจำตัวสมาชิก
St. AnGeLA MeriCi
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 05, 2005 12:50 pm

จันทร์ ต.ค. 10, 2005 12:51 am

ขอบคุณพี่ divine mercy มากเลยนะคะ ตอนนี้สวดสายประคำ 7 joys of Mary อยู่คะ พยายามสวดให้ได้ทุกวัน ;D
Divine Mercy

อาทิตย์ พ.ย. 20, 2005 3:41 pm

เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องแปลกใหม่และยังไม่แพร่หลายในประเทศไทยเรา

ขอพระแม่มารีย์นำความปีติยินดีมาสู่คาทอลิกไทยด้วยเทอญ
ตอบกลับโพส