พระบิดาทรงใช้ทูตสวรรค์มาปลอบใจเราแล้วยูดาส สาวกคนหนึ่งในสิบสองก็มาถึง พร้อมด้วยคนกลุ่มใหญ่ ต่างมีอาวุธครบมือ เช่นไม้ตะบอง ก้อนหิน สายโซ่ และเชือก... เราลุกขึ้นเดินไปหาเขา ถามว่า “พวกท่านมาหาใคร?” ยูดาสยกมือวางบนบ่าของเรา พลางจูบเรา
โธ่เอ๋ย...ยูดาส เจ้าทำอะไร? การจูบของเจ้าหมายความอย่างไร?
เราถามยูดาสว่า “เจ้าทำอะไร?” และเราอยากถามคำถามเดียวกันนี้กับคนอีกหลายๆ คนว่า “เหตุใดลูกจึงทรยศ และมอบเราด้วยการจูบเล่า?”
โอ...วิญญาณที่รัก ลูกพึ่งมารับเราในมิซซาเมื่อเช้านี้ ทั้งๆ ที่ได้สัญญาว่าจะรักเรา ครั้นสายเข้าหน่อยลูกก็มอบเราแก่ศัตรูเสียแล้ว... ในกลุ่มชนนั้นๆ เขาพูดกันถึงเรื่องที่ขัดเคืองใจของเรา ลูกก็รู้ และไปคบหาศัตรูของเรา ทั้งที่พึ่งรับเราเมื่อเช้านี้ และบางทีก็จะรับอีกในพรุ่งนี้ แต่ความผุดผ่อง และ งดงามแห่งพระหรรษทานที่เพิ่งได้รับกลับเสียไป
ณ ที่นั้นเอง ถ้าลูกรู้อยู่แล้วว่าการทำสิ่งนั้น มือจะเปื้อน ลูกจะทำทำไม? การหาประโยชน์อย่างนั้น หาฐานะอย่างนั้น หาความสนุกสบายอย่างนั้น เป็นการผิด ลูกไม่รู้หรือ? ลูกจะแสวงหาทำไม? ลูกรับเรา และจูบเราเหมือนยูดาส และอีกครู่เดี่ยว อีกไม่กี่ชั่วโมง ก็ทำเครื่องหมายให้ศัตรูรู้จักและจับเรา
โอ... คริสตชนที่ทรยศเราด้วยการผูกมิตรที่มีอันตราย เราจะบอกให้รู้ว่า การผูกมิตรแบบนั้นเป็นการเอาโซ่มาล่ามเรา เอาหินมาทุ่มเรา และไม่แต่เท่านั้น ยังเป็นต้นเหตุให้คนอื่นทรยศเราด้วย ลูกมอบเราแก่ศัตรูดังนี้ทำไม? ลูกรู้จักเรา เคยแสดงความรัก ความศรัทธา เป็นเกียรติแก่เราในหลายโอกาส ความดีเหล่านั้นน่าจะเป็นกุศลแก่ลูกมิใช่น้อย ไม่ต้องสงสัยเลย แต่ความจริงแล้วมันเป็นอะไร? ก็เป็นแต่ม่านบังความมุ่งร้ายของลูกเท่านั้น
สหายเอ๋ย...เจ้ามาทำไม? เจ้าใช้การจูบเป็นสัญญาณมอบพระบุตรของพระเจ้า อาจารย์ของเจ้าพระเจ้าของเจ้า พระเจ้าซึ่งทรงรักเจ้า ที่พร้อมจะยกโทษให้เจ้าทุกเวลา เจ้าก็คนหนึ่งในพวก 12 คน หนึ่งในพวกที่นั่งโต๊ะกับเรา และที่เราล้างเท้าให้
กับผู้เป็นสุดที่รัก เรามีอะไรพูดบ้างเหมือนกัน วิญญาณที่รัก ทำไมปล่อยให้ตัณหาพาไป? เหตุใดจึงยอมให้มันกระทำตามชอบใจถึงเพียงนั้น? แท้จริงแล้ว ด้วยกำลังของลูกฝ่ายเดียว ลูกจะปลอดพ้นตัณหาทั้งหมดไม่ได้ แต่เรามิได้ขออะไรเกินความสามารถ ลูกเพียงแต่ต้องต่อสู้ต้านทานมันไว้เท่านั้น ความสนุกชั่วแล่นมีประโยชน์อะไรนักหรือ? นอกจากเงิน 30 เหรียญที่ยูดาสได้รับแลกกับการมอบเราแก่ศัตรู และมันได้รับผลอะไร ถ้ามิใช่ความพินาศของตน และมีกี่คนที่ขายเราด้วยราคาต่ำเพื่อได้มาซึ่งความสนุกชั่วแล่น... โอ...วิญญาณน่าสงสาร ลูกเที่ยวไปแสวงหาสิ่งใด? หาเราใช่ไหม? เราคือพระเยซู ที่ลูกรู้จัก และเคยรักนั่นแหละ เราขอเตือนหน่อย ให้ตื่นเฝ้าและภาวนา ต่อสู้อย่าลดละอย่าให้ความโน้มเอียงตามธรรมชาติและความชั่วกลายเป็นนิสัยได้
ในนามีหญ้าต้องตัด ต้องถางกันทุกปีหรือทุกฤดูกาล พื้นดินต้องฟื้น ต้องไถและถอนหญ้าร้าย ในทำนองเดียวกัน วิญญาณก็ต้องเฝ้าระวังนิสัยไม่ดีต้อง เข้มงวดกวดขัน ปรับปรุงตัว ความยุ่งเหยิงอันร้ายแรงหาได้เกิดจากบาปหนักเสมอไปไม่ บ่อยที่สุดความผิดหนักเกิดจากเรื่องเล็กน้อย เช่นการปล่อยตัวในความสนุกเล็กน้อย การกระทำสิ่งที่ไม่ผิด แต่ไม่รู้จักประมาณ ความเพลิดเพลินชื่นชอบในตัวของมัน แต่ไม่เหมาะกับบุคคลและกาลเทศะ เหล่านี้ถ้าปล่อยให้เติบใหญ่และทวีจำนวนมากขึ้น วิญญาณก็จะค่อยๆ มืดมัวและมืดบอด อิทธิพลของพระหรรษทานลดน้อยลง ราคะตัณหากลับแข็งกล้าขึ้นตามลำดับ และสุดท้ายมันก็ชนะ
พระเป็นเจ้าทรงรักมนุษย์โดยปราศจากขอบเขต และทรงเห็นมนุษย์จำนวนมากที่ไร้สติ ยังคิดพากันเดินลงสู่เหวลึก นี่คือความเศร้าสลดใหญ่หลวงในใจของเรา
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++