†อธิษฐานอดอาหาร มีชัยเหนือกองทัพมหาศาล†
†อธิษฐานอดอาหาร มีชัยเหนือกองทัพมหาศาล†
นักบุญเยเนเวียฟ (Saint Genevieve) ผู้ปกป้องประเทศจากกองทัพศัตรูด้วยการอดอาหารอธิษฐาน
“คุณพ่อขา ช่วยอุ้มหนูด้วยค่ะ หนูจะได้มองเห็นพระสังฆราชบ้างค่ะ” เซเวรูสยิ้มเมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่อยากรู้อยากเห็นของเด็กหญิง ๙ ขวบตัวน้อยน่ารัก ด้วยอ้อมแขนอันแข็งแกร่ง ท่านก็รวบตัวหนูน้อยขึ้นนั่งบนบ่าอันบึกบึน หนูน้อยช่างตัวเล็กกว่าอายุเหลือเกิน เธอใช้แขนทั้งสองกอดรอบคอของท่านพ่อ หนูน้อยเยเนเวียฟจึงชะโงกตัวดูได้สมอยาก และวันนั้นเธอได้ทั้งเห็นทั้งได้ยินทุกอย่างที่เธอต้องการ
ต่อมาในพิธี ท่านพรสังฆราชเจอร์มานูสต้องหยุดบทเทศน์ชั่วขณะยามที่สายตากวาดไปเจอเด็กหญิงตัวน้อยนี้เข้า ส่วนเด็กหญิงกำลังตั้งใจฟังคำขอพระสังฆราชทุกคำ สมาธิที่ตั้งใจฟังของเธอเป็นสิ่งที่ประทับใจพระสังฆราชมาก ทำให้ท่านยิ้มออกมาและเทศน์ต่อไปเมื่อท่านเทศน์จบ ท่านจึงเรียกพ่อแม่ของเยเนเวียฟเข้าไปหาและขอให้ทั้งคู่อยู่ตรงนั้นสักครู่ ท่านถามคำถามเยเนเวียฟสองสามคำถามเกี่ยวกับพระเป็นเจ้าและถามว่าเธอจะทำอะไรเมื่อโตขึ้น เด็กน้อยตอบคำถามอย่างฉับพลันว่าเธออยากจะรับใช้พระเป็นเจ้าในแบบพิเศษ
พระสังฆราชอวยพรให้เธอและให้ไม้กางเขนบรอนซ์แก่เธอให้สวมไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในชีวิตให้เธออย่าลืมความตั้งใจนี้ ขณะที่เธอวิ่งไปอวดของขวัญที่เธอได้มาให้เพื่อนๆ ดู ท่านพระสังฆราชเจอร์มานูส(ภายหลังได้แต่งตั้งเป้นนักบุญ)หันกลับมาพูดกับพ่อแม่ของเธอว่า “ดูแลลูกสาวคนนี้ให้ดีๆ นะพระเป็นเจ้ามอบสิ่งมีค่าให้ท่านแล้ว ดูแลให้เธอบริสุทธิ์และศรัทธาต่อพระ เพราะพระเป็นเจ้าได้เลือกเด็กคนนี้ให้เป็นนักบุญ” คำที่พระสังฆราชกล่าวทิ้งท้ายนี้ส่งให้พ่อและแม่ได้แต่อึ้งระคนด้วยความประหลาดใจ
นักบุญเยเนเวียฟ (Saint Genevieve) ผู้ปกป้องประเทศจากกองทัพศัตรูด้วยการอดอาหารอธิษฐาน
“คุณพ่อขา ช่วยอุ้มหนูด้วยค่ะ หนูจะได้มองเห็นพระสังฆราชบ้างค่ะ” เซเวรูสยิ้มเมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่อยากรู้อยากเห็นของเด็กหญิง ๙ ขวบตัวน้อยน่ารัก ด้วยอ้อมแขนอันแข็งแกร่ง ท่านก็รวบตัวหนูน้อยขึ้นนั่งบนบ่าอันบึกบึน หนูน้อยช่างตัวเล็กกว่าอายุเหลือเกิน เธอใช้แขนทั้งสองกอดรอบคอของท่านพ่อ หนูน้อยเยเนเวียฟจึงชะโงกตัวดูได้สมอยาก และวันนั้นเธอได้ทั้งเห็นทั้งได้ยินทุกอย่างที่เธอต้องการ
ต่อมาในพิธี ท่านพรสังฆราชเจอร์มานูสต้องหยุดบทเทศน์ชั่วขณะยามที่สายตากวาดไปเจอเด็กหญิงตัวน้อยนี้เข้า ส่วนเด็กหญิงกำลังตั้งใจฟังคำขอพระสังฆราชทุกคำ สมาธิที่ตั้งใจฟังของเธอเป็นสิ่งที่ประทับใจพระสังฆราชมาก ทำให้ท่านยิ้มออกมาและเทศน์ต่อไปเมื่อท่านเทศน์จบ ท่านจึงเรียกพ่อแม่ของเยเนเวียฟเข้าไปหาและขอให้ทั้งคู่อยู่ตรงนั้นสักครู่ ท่านถามคำถามเยเนเวียฟสองสามคำถามเกี่ยวกับพระเป็นเจ้าและถามว่าเธอจะทำอะไรเมื่อโตขึ้น เด็กน้อยตอบคำถามอย่างฉับพลันว่าเธออยากจะรับใช้พระเป็นเจ้าในแบบพิเศษ
พระสังฆราชอวยพรให้เธอและให้ไม้กางเขนบรอนซ์แก่เธอให้สวมไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในชีวิตให้เธออย่าลืมความตั้งใจนี้ ขณะที่เธอวิ่งไปอวดของขวัญที่เธอได้มาให้เพื่อนๆ ดู ท่านพระสังฆราชเจอร์มานูส(ภายหลังได้แต่งตั้งเป้นนักบุญ)หันกลับมาพูดกับพ่อแม่ของเธอว่า “ดูแลลูกสาวคนนี้ให้ดีๆ นะพระเป็นเจ้ามอบสิ่งมีค่าให้ท่านแล้ว ดูแลให้เธอบริสุทธิ์และศรัทธาต่อพระ เพราะพระเป็นเจ้าได้เลือกเด็กคนนี้ให้เป็นนักบุญ” คำที่พระสังฆราชกล่าวทิ้งท้ายนี้ส่งให้พ่อและแม่ได้แต่อึ้งระคนด้วยความประหลาดใจ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2007 6:07 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
หลายปีผ่านไป เยเนเวียฟโตเป็นสาว เธอปฏิญาณพิเศษเพื่อถือพรหมจรรย์และอุทิศตัวสวดภาวนาเป็นอันมาก ทำการใช้โทษบาปและทำงานอย่างดีทุกวัน เธอปรารถนาอยากอยู่ในระบอบที่โดดเดี่ยวแบบชีลับแต่พระเป็นเจ้ากลับขอให้เธอเลิกความคิดนี้เสีย และขอให้เธอเป็นผู้แพร่ธรรมพระองค์สู่ประชากรของพระ พระเป็นเจ้าให้พระพรพิเศษแก่เธอในเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต และอะไรๆ ที่เธอกล่าวบอกไว้ล่วงหน้าจะเป็นจริงตามนั้น เธอยังสามารถบอกความลับที่คนเก็บไว้ในใจอีกด้วย และด้วยความมั่นคงที่แสนสุภาพของเธอทำให้เธอสามารถช่วยให้พวกเขาทั้งหลายกลับมามีสันติกับพระเป็นเจ้าเสมอ
แต่สิ่งพิเศษนี้เอง ทำให้เธอมีทุกข์ที่ต้องทนอย่างมหันต์ ทั้งนี้ก็เพราะว่าผู้คนอีกมากมายที่ไม่เชื่อในตัวเธอ และยังเยาะเย้ยเหยียดหยันเธอ เช่นวันหนึ่งเธอเดินผ่านกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง เธอได้ยินพวกเขากำลังพูดถึงเธอว่า “เชอะ!ภาพ..นิ..มิ้ต ต? ไร้สาระ! โธ่ ที่แท้ก็นังบ้าโรคจิต น่าจะมีคนลงโทษไอ้คนชอบพูดเรื่องตอแหลบ้างนะยะ นังคนนี้แบบว่า ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก! ชอบแอ๊คชอบพ่นแต่เรื่องที่เจ้าหล่อนคิดว่าจะเรียกร้องความสนใจจากชาวบ้านได้..ก็เท่านั้น”
พวกที่ชอบนินทาคนอื่นลับหลังใจขมขื่นเหล่านั้น จริงๆ แล้วก็อาจไม่ผิดอะไรมากไปกว่าที่พูดๆ กันไป ทั้งนี้เพราะว่าเยเนเวียฟมิได้ปรารถนาอะไรนอกไปจากสันติในใจและการอยู่สงบในหัวจิตเท่านั้น แม้เธอจะต้องทนทุกข์มหาศาลจากคำวิจารณ์ต่างๆ ของผู้คน แต่เธอก็มักทักทายคนที่ทำเช่นนั้นต่อเธอเสมอและก็สวดภาวนาให้เขา เป็นสิ่งยากเหลือเพื่อจะทำได้เช่นนี้แต่สำหรับเธอแล้ว นี่คือโอกาสที่เธอจะเลียนแบบพระเยซูที่ทรงอภัยอยู่เสมอต่อทุกผู้ที่ทำสิ่งร้ายๆ ต่อพระองค์ ดังนี้แหละที่ทำให้เธอยิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้น มิใช่ด้วยภาพนิมิตที่เธอได้รับหรือพระพรพิเศษต่างๆ ที่เธอมี แต่เพราะความนอบน้อมต่อพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าเท่านั้น เยเนเวียฟใช้พรสวรรค์ทั้งหมดของเธอเพื่อประโยชน์แห่งความดีของคนอื่น เธอช่วยพวกเขาในเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณพร้อมๆ กับเรื่องบรรเทาความขาดแคลนข้าวของในการดำรงชีพและนำเขากลับไปหาพระเป็นเจ้า ความร้อนรอนศรัทธาของเธอมิใช่เป็นแบบเพื่อแสดงอารมณ์แต่เป็นแบบที่มีกิจการประกอบจริงตามนั้นอีกด้วย
แต่สิ่งพิเศษนี้เอง ทำให้เธอมีทุกข์ที่ต้องทนอย่างมหันต์ ทั้งนี้ก็เพราะว่าผู้คนอีกมากมายที่ไม่เชื่อในตัวเธอ และยังเยาะเย้ยเหยียดหยันเธอ เช่นวันหนึ่งเธอเดินผ่านกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง เธอได้ยินพวกเขากำลังพูดถึงเธอว่า “เชอะ!ภาพ..นิ..มิ้ต ต? ไร้สาระ! โธ่ ที่แท้ก็นังบ้าโรคจิต น่าจะมีคนลงโทษไอ้คนชอบพูดเรื่องตอแหลบ้างนะยะ นังคนนี้แบบว่า ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก! ชอบแอ๊คชอบพ่นแต่เรื่องที่เจ้าหล่อนคิดว่าจะเรียกร้องความสนใจจากชาวบ้านได้..ก็เท่านั้น”
พวกที่ชอบนินทาคนอื่นลับหลังใจขมขื่นเหล่านั้น จริงๆ แล้วก็อาจไม่ผิดอะไรมากไปกว่าที่พูดๆ กันไป ทั้งนี้เพราะว่าเยเนเวียฟมิได้ปรารถนาอะไรนอกไปจากสันติในใจและการอยู่สงบในหัวจิตเท่านั้น แม้เธอจะต้องทนทุกข์มหาศาลจากคำวิจารณ์ต่างๆ ของผู้คน แต่เธอก็มักทักทายคนที่ทำเช่นนั้นต่อเธอเสมอและก็สวดภาวนาให้เขา เป็นสิ่งยากเหลือเพื่อจะทำได้เช่นนี้แต่สำหรับเธอแล้ว นี่คือโอกาสที่เธอจะเลียนแบบพระเยซูที่ทรงอภัยอยู่เสมอต่อทุกผู้ที่ทำสิ่งร้ายๆ ต่อพระองค์ ดังนี้แหละที่ทำให้เธอยิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้น มิใช่ด้วยภาพนิมิตที่เธอได้รับหรือพระพรพิเศษต่างๆ ที่เธอมี แต่เพราะความนอบน้อมต่อพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าเท่านั้น เยเนเวียฟใช้พรสวรรค์ทั้งหมดของเธอเพื่อประโยชน์แห่งความดีของคนอื่น เธอช่วยพวกเขาในเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณพร้อมๆ กับเรื่องบรรเทาความขาดแคลนข้าวของในการดำรงชีพและนำเขากลับไปหาพระเป็นเจ้า ความร้อนรอนศรัทธาของเธอมิใช่เป็นแบบเพื่อแสดงอารมณ์แต่เป็นแบบที่มีกิจการประกอบจริงตามนั้นอีกด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2007 5:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ในปี ค.ศ.๔๔๙ เผ่าคนป่าแห่งแฟร้งค์ส มาล้อมกรุ่งปารีส กษัตริย์ชิลเดอริคแห่งแฟร้งค์สตั้งใจจะบีบให้คนในเมืองยอมจำนนด้วยวิธีปล่อยให้ค่อยๆ ตายเพราะขาดเสบียงอาหาร แต่เยเนเวียฟช่วยพวกทหารจัดแจงเรื่องการแบ่งและลำเลียบอาหารจนว่า แม้กษัตริย์ชิลเดอริคจะชนะในที่สุดและได้เมืองปารีสก็จริง แต่ผู้คนในปารีสกลับมิได้พากันตายเพราะขาดอาหาร เยเนเวียฟกลับมีอิทธิพลเหนือกษัตริย์ต่างชาติองค์นี้ และด้วยคำวิงวอนจากเธอ ทำให้นักโทษจำนวนมากได้รับอิสระและกษัตริย์ของปารีสจึงรอดพ้นจากโทษทรมานต่างๆ เยี่ยงนักโทษ
ในปีค.ศ.๔๕๑ เกิดภัยพิบัติในปารีสอีก จักรพรรดิอัตติลาชาวฮั่นกำลังกรีฑาทัพไปโรม แต่กรุงปารีสขวางอยู่บนเส้นทางนั้นพอดี ประชาชนพากันหวาดกลัวมากและเตรียมตัวหนีออกนอกเมืองกันแล้ว แต่มีเสียงหนึ่งร้องทัดทานแผนการหนีนี้ไว้ เสียงนั้นคือเสียงของเยเนเวียฟ ว่า “อย่าหนีไปไหนเลย อยู่กันที่นี่แหละ หากเราทั้งหลายอดอาหารและสวดภาวนาร่วมกัน พระเป็นเจ้าทรงสัญญาว่าจะช่วยเหลือพวกเรา อย่าหนีไปหลบตามปราสาทต่างๆ รอบนอกในชนบท แต่ให้หนีไปอยู่ตามวัดของพวกเราในปารีสนี้แทน และอย่าหวังพึ่งพิงอาวุธกับกองทัพ แต่ให้พึ่งพาความไว้ใจในพรเจ้า”
ในปีค.ศ.๔๕๑ เกิดภัยพิบัติในปารีสอีก จักรพรรดิอัตติลาชาวฮั่นกำลังกรีฑาทัพไปโรม แต่กรุงปารีสขวางอยู่บนเส้นทางนั้นพอดี ประชาชนพากันหวาดกลัวมากและเตรียมตัวหนีออกนอกเมืองกันแล้ว แต่มีเสียงหนึ่งร้องทัดทานแผนการหนีนี้ไว้ เสียงนั้นคือเสียงของเยเนเวียฟ ว่า “อย่าหนีไปไหนเลย อยู่กันที่นี่แหละ หากเราทั้งหลายอดอาหารและสวดภาวนาร่วมกัน พระเป็นเจ้าทรงสัญญาว่าจะช่วยเหลือพวกเรา อย่าหนีไปหลบตามปราสาทต่างๆ รอบนอกในชนบท แต่ให้หนีไปอยู่ตามวัดของพวกเราในปารีสนี้แทน และอย่าหวังพึ่งพิงอาวุธกับกองทัพ แต่ให้พึ่งพาความไว้ใจในพรเจ้า”
ทีแรกผู้คนยังตื่นกลัวกันมาก จึงไม่มีใครสนใจคำขอร้องของเธอนี้ แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งร้องว่า “เธอพูดถูก พวกเราจำเรื่องของนางยูดิธกับนางเอสเธอร์ในพระคัมภีร์ได้ไม๊ ว่าพวกเธอได้รับการดลใจในภาวะเดียวกันนี้อย่างไร. และที่สุดพระเป็นเจ้าได้อวยพรประชาชนยังไงจึงได้รอดพ้นจากเหล่าศัตรูไปได้? พระเป็นเจ้าได้ส่งหญิงนางหนึ่งมานำพวกเราแล้ว พระองค์คงต้องการบอกความจริงแก่พวกเราว่า พลังอำนาจและความเข้มแข็งของพระองค์เท่านั้น จะทำให้เราชนะศัตรูได้ ขอให้พวกเราทำอย่างที่เยเนเวียฟบอกก็แล้วกัน”
ประชาชนจึงพากันพลีกรรมและสวดภาวนากันยกใหญ่ อัตติลายังคงเดินทัพมุ่งตรงมาที่ปารีส แต่แล้วทันที่ทันใด โดยไม่ทราบเหตุผลชัดเจน อัตติลาสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางเดินทัพและอ้อมผ่านกรุงปารีสไป ทั้งเมืองไชโยโห่ฮิ้วกันยกใหญ่! พากันย่ำระฆังกันทั้งเมือง ผู้คนวิ่งกันขวักไขว่จนเกือบจลาจลเพราะความยินดีอันนี้ แล้วพวกเขาก็พากันไปหาเยเนเวียฟ ที่กำลังคุกเขาสวดอยู่ภายในวัดอย่างเงียบสงบ แล้วประชาชนก็ร่วมกันประสานเสียงร้องบทเพลงสรรเสริญถวายสดุดีแด่พระเป็นเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน พระเป็นเจ้าได้แสดงความรักและความเอาใจใส่ผู้ที่มอบความไว้วางใจในพระองค์อีกครั้ง
ประชาชนจึงพากันพลีกรรมและสวดภาวนากันยกใหญ่ อัตติลายังคงเดินทัพมุ่งตรงมาที่ปารีส แต่แล้วทันที่ทันใด โดยไม่ทราบเหตุผลชัดเจน อัตติลาสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางเดินทัพและอ้อมผ่านกรุงปารีสไป ทั้งเมืองไชโยโห่ฮิ้วกันยกใหญ่! พากันย่ำระฆังกันทั้งเมือง ผู้คนวิ่งกันขวักไขว่จนเกือบจลาจลเพราะความยินดีอันนี้ แล้วพวกเขาก็พากันไปหาเยเนเวียฟ ที่กำลังคุกเขาสวดอยู่ภายในวัดอย่างเงียบสงบ แล้วประชาชนก็ร่วมกันประสานเสียงร้องบทเพลงสรรเสริญถวายสดุดีแด่พระเป็นเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน พระเป็นเจ้าได้แสดงความรักและความเอาใจใส่ผู้ที่มอบความไว้วางใจในพระองค์อีกครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2007 5:41 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เยเนเวียฟเป็นเทพธิดาแห่งความดีงามจริงๆ เธอได้รับเสียงดลใจจากพระจริง เดี๋ยวนี้ประชาชนเชื่อเธอแล้ว และยังดำเนินตามแบบอย่างชีวิตของเธอด้วย มีคนสมัครเข้ามาทำหน้าที่ในพระศาสนามากมายและปฏิบัติชีวิตสมเป็นคริสตชนอย่างแท้จริง เธอยังคงดำรงชีวิตที่เต็มไปด้วยการสวดภาวนาและใช้โทษบาป เธอออกเยี่ยมคนเจ็บคนป่วย ช่วยสอนและแนะนำเด็กๆ แลสตรีทั้งหลาย พวกเธอจึงอุทิศชีวิตรับใช้พระเป็นเจ้าและเพื่อนพี่น้องเหมือนที่เยเนเวียฟได้ทำ
หลายปีต่อมาเยเนเวียฟตายลงอายุได้ ๘๙ ปี ขบวนแห่ศพแน่นขนัดไปด้วยชาวเมืองที่เศร้าโศก ใครๆ ก็บ่นคิดถึงเธอ พวกเขาต่างก็รักเธอกันทั้งนั้น เธอเป็นของขวัญที่พระประทานมาให้พวกเขาและบัดนี้ของขวัญชิ้นนี้ไม่อยู่แล้ว คนที่ดูเหมือนจะร้องไห้ฟูมฟายมากที่สุดได้แก่พวกที่เคยทำให้เธอต้องทนทุกข์มาตลอด คือคนที่เขาใจภารกิจพิเศษของเธอผิดไปในอดีต แต่พวกเขาก็รู้ๆ อยู่ว่าเธอได้ให้อภัยพวกเขาแล้ว น้ำตาจึงเป็นน้ำตาแห่งความรู้คุณและรักเธอเสียมากกว่า ในโลกนี้เธอนำพวกเขาไปหาพระ บัดนี้ในสวรรค์เธอกำลังภาวนาต่อไปเพื่อพวกเขาและนำพวกเขาไปหาพระเป็นเจ้าอีกเช่นกัน
หลายปีต่อมาเยเนเวียฟตายลงอายุได้ ๘๙ ปี ขบวนแห่ศพแน่นขนัดไปด้วยชาวเมืองที่เศร้าโศก ใครๆ ก็บ่นคิดถึงเธอ พวกเขาต่างก็รักเธอกันทั้งนั้น เธอเป็นของขวัญที่พระประทานมาให้พวกเขาและบัดนี้ของขวัญชิ้นนี้ไม่อยู่แล้ว คนที่ดูเหมือนจะร้องไห้ฟูมฟายมากที่สุดได้แก่พวกที่เคยทำให้เธอต้องทนทุกข์มาตลอด คือคนที่เขาใจภารกิจพิเศษของเธอผิดไปในอดีต แต่พวกเขาก็รู้ๆ อยู่ว่าเธอได้ให้อภัยพวกเขาแล้ว น้ำตาจึงเป็นน้ำตาแห่งความรู้คุณและรักเธอเสียมากกว่า ในโลกนี้เธอนำพวกเขาไปหาพระ บัดนี้ในสวรรค์เธอกำลังภาวนาต่อไปเพื่อพวกเขาและนำพวกเขาไปหาพระเป็นเจ้าอีกเช่นกัน
หลายศตวรรษจากนั้นได้เกิดอัศจรรย์และสิ่งดีๆ จากการวอนขอผ่านทางเยเนเวียฟในหมู่ประชาชน อัศจรรย์อันโดดเด่นอันหนึ่งก็คือ อันที่เกิดขึ้นหลังจากเธอตายไปหลายศตวรรษแล้วในปี ๑๑๒๙ ได้เกิดโรคระบาดที่น่ากลัวขนาดใหญ่แพร่ไปทั่วฝรั่งเศส ขนาดที่มีคนตายวันละประมาณ ๑,๐๐๐ คน ทั้งประเทศจึงหันไปหาเยเนเวียฟขอให้ช่วยเสนอวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อพวกเขา พวกเขาจัดขบวนแห่ขนาดใหญ่ กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความเชื่อในหมู่ประชาชน สาวน้อยเป็นเสมือนผู้อภิบาลในสวรรค์ได้เสนอวิงวอนต่อพระเป็นเจ้า และในวันนั้นที่จัดขบวนแห่ โรคระบาดก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง ใครๆ ก็รู้ว่ามิตรผู้ซื่อสัตย์และผู้ปกป้องของพวกเขาได้เสนอวิงวอนต่อหน้าพระบัลลังก์พระเจ้าเพื่อพวกเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว
แบบฉบับของท่านนักบุญเยเนเวียฟเชิญชวนทั้งชายและหญิง แม้มิใช่แบบให้ไปใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในคอนแวนต์ แต่ก็สอนให้เห็นถึงความสวยงามของชีวิตที่ถือโสดได้เป็นอย่างดี มนุษยชาติต้องการผุ้คนแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง เพื่อจะดูแลผู้ทนทุกข์จากความจน ความเจ็บไข้ได้ป่วย คนชรา คนประสบทุกข์เวทนาต่างๆ คนที่ถูกกดขี่ข่มเหง ชีวิตที่อุทิศถวายเพื่องานบริการเพื่อนพี่น้องย่อมเป็นชีวิตที่ถวายแด่พระเป็นเจ้านั้นเอง ชีวิตแบบนี้ได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้าเช่นกันเพราะ “เชิญมาเถิด ท่านที่ได้รับพระพรจากพระบิดา มารับรางวัลแห่งพระอาณาจักรสวรรค์ที่ได้เตรียมไว้สำหรับท่าน เพราะเมื่อเราหิวท่านก็ให้เรากิน เรากระหายท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นเขกแปลกหน้ามาท่านก็ต้อนรับ เราเปลือยเปล่าท่านก็ให้เสื้อผ้าแก่เราเดราเจ็บป่วยท่านก็มาบรรเทา เราติดคุกท่านก็มาเยี่ยม..เราขอยืนยันกับท่านว่า สิ่งที่ท่านได้ทำแก่เพื่อนพี่น้องแม้ที่เล็กน้อยที่สด ท่านได้ทำต่อเราเอง”
แบบฉบับของท่านนักบุญเยเนเวียฟเชิญชวนทั้งชายและหญิง แม้มิใช่แบบให้ไปใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในคอนแวนต์ แต่ก็สอนให้เห็นถึงความสวยงามของชีวิตที่ถือโสดได้เป็นอย่างดี มนุษยชาติต้องการผุ้คนแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง เพื่อจะดูแลผู้ทนทุกข์จากความจน ความเจ็บไข้ได้ป่วย คนชรา คนประสบทุกข์เวทนาต่างๆ คนที่ถูกกดขี่ข่มเหง ชีวิตที่อุทิศถวายเพื่องานบริการเพื่อนพี่น้องย่อมเป็นชีวิตที่ถวายแด่พระเป็นเจ้านั้นเอง ชีวิตแบบนี้ได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้าเช่นกันเพราะ “เชิญมาเถิด ท่านที่ได้รับพระพรจากพระบิดา มารับรางวัลแห่งพระอาณาจักรสวรรค์ที่ได้เตรียมไว้สำหรับท่าน เพราะเมื่อเราหิวท่านก็ให้เรากิน เรากระหายท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นเขกแปลกหน้ามาท่านก็ต้อนรับ เราเปลือยเปล่าท่านก็ให้เสื้อผ้าแก่เราเดราเจ็บป่วยท่านก็มาบรรเทา เราติดคุกท่านก็มาเยี่ยม..เราขอยืนยันกับท่านว่า สิ่งที่ท่านได้ทำแก่เพื่อนพี่น้องแม้ที่เล็กน้อยที่สด ท่านได้ทำต่อเราเอง”
ข้าแต่พระเป็นเจ้า ท่านนักบุยเยเนเวียฟ ผู้รับใช้ศักดิ์สิทธ์ของพระองค์ได้สอนบทเรียนแห่งการทนทุกข์อย่างเงียบสงบและการให้อภัยแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย อีกทั้งท่านปรากฎเด่นชัดในเรื่องพระพรพิเศษเฉพาะคนที่พระองค์ประทานให้มนุษย์ว่ามีจริง ท่านยังมิใช่แค่ช่วยเหลือคนด้วยโอกาสเท่านั้น แต่ยังสอนให้ผู้คนเข้มแข็งและกลับมาหาพระองค์อยู่เป็นนิตย์ขอท่านนักบุญช่วยให้พวกเราทุกคนเห็นความสำคัญของการภาวนาและการใช้โทษบาป เพื่อพระองค์จะได้สดับฟังคำวิงวินของเราในยามทุกข์ร้อน ให้พวกเขากระจ่างชัดในเรื่องชีวิตที่มีความเชื่อและปรนนิบัติพระเป็นเจ้าสม่ำเสมอ ว่าเป็นที่มาของทุกสิ่งทุกอย่างที่ชีวิตมนุษย์พึงจะต้องการ และสามารถนำเรากลับไปหาพระเป็นเจ้าได้ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า โปรดให้พวกเรามองเห็นผู้คนรอบข้างตามความเป็นจริง ไม่วิพากษ์วิจารณ์เพื่อนมนุษย์โดยไม่รู้จักตัวตนที่แท้ของตัวเองเสียก่อน และขอท่านนักบุญเยเนเวียฟโปรดอยู่เคียงข้างคนดีๆ ในสังคม ให้เขามีกำลังใจเข้มแข็งและสุภาพ และให้งานพิเศษของเขาที่ปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าได้สำเร็จเป็นไปเพื่อสังคมส่วนรวมเสมอด้วยเทอญ อาแมน.
พระเจ้าสถิตกับท่าน
พ่อ สุเทศ ประมวลพร้อม
( จากหนังสือ ไล้ฟส ออฟ เซนต์ส เรียบเรียงโดย ซิสเตอร์ แอนนา บากาดีญอง เอฟเอสพี. หน้า 53-57 แปลโดย ป.จันทร์. 22 ม.ค. 2007 )
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2007 5:51 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอบคุณท่านนักบุญ ที่เป็นตัวอย่างแก่ข้าพเจ้า
และโปรดช่วย ชี้แนะข้าพเจ้า
เพื่อให้ข้าพเจ้าเตรียมตนเป็น เครื่องบูชาที่พอพระทัย ในเทศกาลมหาพรตนี้ และสืบไปด้วยเทอญ อาเมน
และโปรดช่วย ชี้แนะข้าพเจ้า
เพื่อให้ข้าพเจ้าเตรียมตนเป็น เครื่องบูชาที่พอพระทัย ในเทศกาลมหาพรตนี้ และสืบไปด้วยเทอญ อาเมน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบพระคุณพระเจ้า สำหรับแบบอย่างอันดีงามของท่านนักบุญครับ
วันนี้ (3 มค.)
เป็นวันระลึกถึงท่าน
ขอท่านเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับ ในการพลีกรรมช่วงมหาพรตอันจะใกล้เข้ามาเทอญ อาแมน
เป็นวันระลึกถึงท่าน
ขอท่านเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับ ในการพลีกรรมช่วงมหาพรตอันจะใกล้เข้ามาเทอญ อาแมน
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเจริญชีวิตนี้อย่างศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับนักบุญเยเนเวียฟ ผู้ดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์ตลอดมา โปรดให้ข้าพเจ้าเอาจริงเอาจังกับการอิษฐานภาวนา และอุทิศชีวิตของตนเพื่อรับใช้พระองค์ และผู้อื่น เช่นเดียวกับที่นักบุญเยเนเวียฟได้กระทำตลอดชีวิตของท่านด้วยเถิด
ทั้งนี้ขอพึ่งพระบารมีของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
นักบุญเยเนเวียฟ ช่วยวิงวอนเทอญ
ทั้งนี้ขอพึ่งพระบารมีของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
นักบุญเยเนเวียฟ ช่วยวิงวอนเทอญ
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
คริสตชนไทย พร้อมใจกัน อดอาหาร
เพื่อวิงวอนภาวนาอธิษฐาน เพื่อให้สันติสุขเกิดในดินแดนภาคใต้เถิด...
เป็นการ Apply การสวดภาวนาแบบนี้ ...
เหมือนกับที่พระเยซูเจ้าเคยพูดว่า
"ปีศาจตนนี้ จะไล่ได้ เราจำต้องอดอาหารและจำศีลภาวนา"
...
ใช่แล้วหละ
เพื่อวิงวอนภาวนาอธิษฐาน เพื่อให้สันติสุขเกิดในดินแดนภาคใต้เถิด...
เป็นการ Apply การสวดภาวนาแบบนี้ ...
เหมือนกับที่พระเยซูเจ้าเคยพูดว่า
"ปีศาจตนนี้ จะไล่ได้ เราจำต้องอดอาหารและจำศีลภาวนา"
...
ใช่แล้วหละ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
การอดฝ่ายกาย เสริมฝ่ายวิญญาณ จ้า